It’s Okay to Not Be Okay

นิทรรศการแสดงเดี่ยว โดย วิชุดา  ขันติจิตร

          นิทรรศการเริ่มต้นจากศิลปินมีวันที่ยากลำบากอยู่วันหนึ่ง ได้นั่งมองธรรมชาติรอบตัวอย่างที่มักใช้เวลากับสิ่งนี้เป็นปกติ  แต่ในวันที่ยากลำบากนั้น ทำให้การมองใบไม้ร่วงหล่นไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เคยมอง     ทำให้จิตใจของศิลปินแสดงตนพร้อมกับบทสนทนาขึ้นมาว่า “เราก็ไม่ต่างกับใบไม้เหล่านั้นใช่ไหมล่ะ ชีวิตมันก็แบบนั้นแหละ” 

          เมื่อศิลปินได้สนทนากับตัวเอง มองเห็นการเปลี่ยนผันของธรรมชาติ มองด้วยความเข้าใจเช่นนั้น ความรู้สึกที่กำลังหนักอึ้งกลับรู้สึกเบาขึ้น  ศิลปินได้นึกถึงคำพูดของ Epictetus นักปรัชาชาวกรีกที่กล่าวว่า “สรรพสิ่งไม่ได้ก่อปัญหาให้กับมนุษย์ แต่ปัญหาเกิดแต่มุมมองของเราต่างหาก ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่เกิดขึ้น แต่อยู่ที่ท่าทีของเราเป็นสำคัญ”  เมื่อเราเข้าใจ ยอมรับ และมองด้วยท่าทีไม่ยินดียินร้ายจนเกินไป เราจะค้นพบว่า “It’s Okay to Not Be Okay” 

          เพราะทุกสิ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา และสิ่งที่เรามักไม่รู้คือ “เมื่อเราปล่อยบางอย่าง ช่องว่างเล็ก ๆ ได้เกิดขึ้น  ช่องว่างเพื่อการดำรงอยู่ต่อไป ไม่ใช่การสูญเสียและเพื่อให้เราได้เติบโต”

           เกี่ยวกับศิลปิน

          วิชุดา  ขันติจิตร (1999)

          วิชุดาเรียนจบปริญญาตรีคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกจิตรกรรม และกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยศิลปากร จุดเริ่มต้นเส้นทางศิลปะของเธอไม่ได้เป็นสิ่งที่เธอตั้งใจเลือก และมุ่งหวังแต่แรก แต่เธอก็มีความตั้งใจว่า ณ จังหวะชีวิตตอนนี้จะเอาดีกับเส้นทางนี้ให้ถึงที่สุด 

          คาแรคเตอร์หลักในผลงานของเธอคือ เรือกระดาษและเจ้าหมาตัวเล็กตัวหนึ่งกำลังนั่งมองบางสิ่งอยู่  ผลงานของวิชุดาส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์เหนือจริงและ Landscape อันกว้างไกลไร้เส้นขอบฟ้าและไร้ผู้คน โดยผลงานมักถูกนำเสนอแง่มุมที่มาจากสิ่งรอบตัว ประสบการณ์ของเธอ จากสิ่งที่เธอได้อ่าน ได้ดูและได้เห็น เพื่อส่งต่อให้ผู้คนที่ได้ชมผลงานของเธอได้ขบคิด 

          ซึ่งแง่มุมที่ซ่อนอยู่ในทุกผลงานของเธอตลอดที่ผ่านมาคือ การเห็นคุณค่าและไม่มองข้ามในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเธอเชื่อว่าเมื่อเราให้คุณค่ากับสิ่งเล็กน้อยแล้ว เราจะเห็นแง่มุมที่กว้างขึ้น  เราจะมองเห็นมากกว่าเมื่อแรกเห็น ซึ่งจะนำพาเราไปสู่เรื่องราวดีๆ มากมายที่รอเราค้นเจออยู่

          *โดยจะมีงานเปิดนิทรรศการ วันเสาร์ ที่ 22 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.30 - 17.00 น. ณ Mini Xspace Gallery กรุงเทพฯ ชั้น 2 และจะปิดทุกวันอาทิตย์

Event Contact