ถัง คอนเทมโพรารี อาร์ต ภูมิใจเสนอ
EL JARDÍN (THE GARDEN) : STUDIO LENCA SOLO EXHIBITION
ในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2566 ถัง คอนเทมโพรารี อาร์ต จะจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวของศิลปิน สตูดิโอ เล็นก้า ณ สเปซของแกลเลอรีในกรุงเทพฯ โดยเป็นการร่วมงานครั้งที่สองระหว่างศิลปินกับแกลเลอรีหลังจากนิทรรศการเดี่ยว ‘I’m working on leaving (โซล)’ ศิลปินได้สำรวจการพลัดถิ่น ความเป็นส่วนหนึ่ง และตัวตน ผ่านคอนเซ็ปต์ของ El Jardín (The Garden)
‘สวน’ คือพื้นที่ธรรมชาติอันศิวิไลซ์ กล่าวคือสวนจะต่างจากธรรมชาติของป่าไม้ที่แผ่จะกิ่งก้านสาขาระเกะระกะไปทั่ว ภาพส่วนมากในยุคเรเนซองส์จึงมองป่าเป็นพื้นที่ที่ไม่เป็นระเบียบ เป็นสถานที่พิเศษที่แยกออกจากชีวิตประจำวัน การจัดสวนอาจคล้ายกับป่าไม้แต่แท้จริงแล้วค่อนข้างต่างกัน เพราะป่าจะเปิดออกกว้างอย่างไร้พรมแดน ขณะที่สวนมีขอบเขตจำกัดชัดเจน พืชพรรณในสวนเองก็ถูกเลือกจัดสรรประหนึ่งรูปปั้น จับวางและตกแต่งด้วยองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม พื้นที่สวนคือพื้นที่ในอุดมคติที่ถูกปิดกั้นจากโลกภายนอกและคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ แนวคิดนี้ได้เป็นแรงขับเคลื่อนแก่ศิลปินหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์ (Claude Monet) หรือมาทิส (Henri Matisse) ‘สวน’ คือพื้นที่ในจินตนาการ และสถานที่ซึ่งสะท้อนภาพความคิดของศิลปิน ที่ซึ่งเป็นที่หลบภัยของผู้คนชายขอบด้วยเช่นกัน ในนิทรรศการนี้ สตูดิโอ เล็นก้า ขอเชื้อเชิญทุกท่านก้าวเข้าสู่ เอล ฮาร์ดีน (El Jardín) สวนขวัญแห่งความเฟื่องฟู
องค์ประกอบความโรแมนติกและดรามาติกที่ปรุงแต่งสวนขึ้นมาถูกคัดสรรและนำเสนอโดยศิลปินลงบนผืนผ้าใบ โดยมันต่างห่อหุ้มวัตถุโดยรอบ องค์รวมของเฟรมแต่งแต้มด้วยพืชพรรณสีสันสดใส ลายเส้นอิสระ และสีสว่าง เป็นที่จับตาของทุกคนที่ได้มอง ทั้งตัวละครที่ต่างแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ลวดลายประณีตสวมหมวกปีกกว้าง ลักษณะโอ่อ่าผ่าเผย สายตามองลอดทอดออกจากผืนผ้า ตีแผ่ให้ผลงานเป็นมากกว่าชิ้นงานศิลปะในพื้นที่แห่งชีวิตจริง เหล่านี้คือวัฒนธรรมชายขอบที่ถูกนำเสนอด้วยผู้คนเหล่านี้ และเป็นเรื่องเนื้อเรื่องหลักที่ศิลปินต้องการบอกเล่า ตัวละครสมมติเหล่านี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสมและปลอดภัยภายในสวนเอล ฮาร์ดีน
สัญญะที่ถูกผลิตซ้ำของภาพเรือและเครื่องแบบทางการทหารเป็นสัญลักษณ์เปรยถึงสิ่งหลงเหลือตกทอดมาจากการล่าอาณานิคมและความรุนแรงในบ้านเกิดเมืองนอนของศิลปิน องค์ประกอบแม้อาจดูไม่ลงรอยกันและร่วมอาศัยอยู่บนพื้นที่จำกัดระหว่างความจริงและจินตนาการเป็นพื้นที่เดียวกันที่สตูดิโอ เล็นก้า แทรกใส่ตัวตนและการเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์และความขัดแย้งของมาตุภูมิในอดีต
ตลอดทั้งผลงาน เฉดสีที่เข้ากันและขัดแย้งตัดกัน ลำดับชั้นจึงปรากฏชัดเจนขึ้น ศิลปินได้เข้าถึงสีและรอยฝีแปรง อุปมาถึงการพลัดถิ่นและตัวตนที่ถูกฉาบซ่อนไว้หลายชั้น งานของเขาคือการยืนยันถึงโลกภายในและภายนอกของเรื่องราวประวัติศาสตร์และตัวตนหลากหลาย ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเส้นสีระสับระส่ายก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวราวพวกมันกำลังเต้นรำ ประสบการณ์ร่วมของผู้คนผู้จากบ้านเกิดมาที่ว่า เราคือใคร เราเห็นอะไร และเราจากที่ใดมา ต่างแฝงอยู่ในทุกอณูของผืนผ้าใบ
ประสบการณ์การใช้ชีวิตของศิลปินจึงเป็นแก่นของงานเขา สตูดิโอ เล็นก้า เข้าถึงประเด็นในโลกปัจจุบันโดยเล่าเรื่องผ่านงานศิลปะที่จับต้องได้ และพูดถึงเรื่องราวอันมีชีวิตไม่ต่างกันกับสวนเอล ฮาร์ดีน นิทรรศการจึงเสนอที่พักพิงแด่ทุกคนผู้เป็นคนในวัฒนธรรมชายขอบ และศิลปินเองหวังว่านิทรรศการจะสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยน การมองเห็น วงสนทนา ด้วยแอล ฮาร์ดีน
เกี่ยวกับศิลปิน
สตูดิโอ เล็นก้า (โฮเซ่ คัมโปส) ลี้ภัยออกจากประเทศเอลซัลวาดอร์ในช่วงสงครามกลางเมืองในช่วงปี 80 (ราวปี พ.ศ. 2520) คร่าชีวิตประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์กว่า 80,000 และต้องพลัดถิ่นไปแทบทั้งหมด โฮเซ่เดินทางไปสหรัฐอเมริกาทางบกไปพร้อมกับแม่และเติบโตที่นั่นในฐานะผู้ลี้ภัยผิดกฎหมาย
ต่อมาศิลปินได้ลงหลักปักฐานในสหราชอาณาจักร และจบการศึกษาปริญญาโทจาก Goldsmiths University ในกรุงลอนดอน ปี พ.ศ. 2562 โดยผลงานของศิลปินได้ถูกจัดแสดงทั่วโลก และได้รับการสะสมโดยมูลนิธิ MER อีกด้วย
งานของศิลปินสนใจไอเดียของความแตกต่างในแวดล้อม องค์ความรู้ และการมองเห็น โฮเซ่ แคมโปส ทำงานภายใต้ชื่อ ‘สตูดิโอ เล็นก้า’ โดยคำว่า ‘สตูดิโอ’ หมายถึง พื้นที่ทดลองและสถานที่ที่แปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ส่วน ‘เล็นก้า’ หมายถึงชื่อบรรพบุรุษของศิลปินในเอลซัลวาดอร์
เพนท์ติงสีสันสดใสได้พรรณนาการแต่งกายและเครื่องประดับของวัฒนธรรมซัลวาดอรันที่ร้อยเรียงไปกับการสำรวจความเป็นชาย ยุคอาณานิคมที่ผันผ่านของประเทศและวาทกรรมที่รุนแรง หมวกปีกกว้างและอาภรณ์แสดงประเพณีวัฒนธรรมพื้นเมืองของ ลอส ฮิสทอเรียนเทส (หมอดูพื้นบ้าน) และสัญลักษณ์ของกลุ่มแก๊งสเตอร์อย่างกลุ่ม MS-13 และ 18th Street จะไม่ถูกพูดถึง แม้จะมีประวัติที่ยึดโยงมานานในเอลซัลวาดอร์ สหรัฐฯ และสงครามที่เคยเกิดขึ้น แต่ศิลปินเลือกที่จะเสนอความงามของบ้านเกิดผ่านภาพสวยงาม สีสันวิจิตร แสดงความละเมียดละไม อ่อนหวาน ขณะซ่อนด้วยฉากหลังของประสบการณ์อันยากลำบาก
ตัวละครต่างๆ คือรูปแทนของประสบการณ์บ่มเพาะของศิลปินในปีผ่านๆ มา การหลบลี้จากภัยสงครามและการต่อรองกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร ทิศทางของตัวตนสตูดิโอ เล็นก้า ตกอยู่ระหว่างวัฒนธรรมเอลซัลวาดอร์และประเทศเพื่อนบ้าน เลเยอร์ของสี ดอกไม้ สัตว์ประจำถิ่น แก่นคิด และสิ่งประดิษฐ์ นำเสนอผ่านเรื่องราวที่ไม่ได้เล่าและเสียงที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ย สิ่งหลงเหลืออันน่าเจ็บปวดจากการล่าอาณานิคม การอพยพครั้งใหญ่ และการมีอำนาจทางวัฒนธรรมเหนือกว่าจากรัฐอื่น เป็นเรื่องที่ประจักษ์ในงาน ศิลปินจึงต้องการแบ่งปันวังวนของการเล่าเรื่องราวที่ยังคงไม่คลี่คลาย คือเรื่องราวของตัวศิลปินเองและวัฒนธรรมบ้านเกิดที่ถูกแทรกแซง
ถัง คอนเทมโพรารี อาร์ต
นับตั้งแต่การก่อตั้งสเปซแรกในกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2540 ถัง คอนเทมโพรารี อาร์ต ได้เปิดพื้นที่ทางศิลปะไปแล้วกว่า 7 แห่ง ทั้งในกรุงปักกิ่ง ฮ่องกง กรุงเทพมหานคร และโซล เพื่อสนับสนุนการพัฒนางานศิลปะเชิงทดลองในภูมิภาคต่างๆ
เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่ ถัง คอนเทมโพรารี อาร์ต ได้จัดแสดงนิทรรศการอย่างหลากหลายและแปลกใหม่ในพื้นที่ของแกลเลอรี อีกทั้งยังร่วมมือในโปรเจกต์ทางศิลปะกับสถาบันศิลปะของประเทศจีนและนานาชาติให้สำเร็จอย่างลุล่วง แกลเลอรีได้มุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นสร้างพื้นที่บทสนทนา ระหว่างศิลปิน ภัณฑารักษ์ นักสะสม รวมไปถึงสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยรายนามของนิทรรศการอันโดดเด่นที่ผ่านมา ทำให้ ถัง คอนเทมโพรารี อาร์ต ได้รับการยอมรับจากระดับสากล และดำรงสถานะผู้บุกเบิกวงการศิลปะร่วมสมัยแห่งเอเชีย
ในฐานะหนึ่งในช่องทางแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศจีน ถัง คอนเทมโพรารี อาร์ต ยังคงรักษามาตรฐานของการจัดนิทรรศการอยู่เสมอ โดยเป็นตัวแทนนำเสนอผลงานและร่วมงานกับบุคคลสำคัญในแวดวงศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติ
*โดยนิทรรศการจะเปิดวันที่ 15 กรกฎาคม เวลา 16.00 น. และจะปิดทุกวันจันทร์