ภาพทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกันคล้ายเขาวงกตที่เรามักเห็นอยู่บ่อยๆ ในยุคนี้ เราเรียกสิ่งนั้นว่า QR Code (Quick Response Code) และเมื่อแรกเห็น สิ่งที่คนส่วนมากจะทำก็คือการหยิบมือถือขึ้นมาสแกนเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อๆ ไป บางคนก็อาจจมีความคุ้นเคยจากการ Add Friend หรือการเพิ่มเพื่อนใน LINE (ไลน์) หรือบางคนก็อาจจะเคยแสกนเจ้า QR นี้เพื่อรับโปรโมชั่นจากร้านอาหาร แต่รู้มั้ยว่าความจริงแล้ว QR Code นั้นสามารถทำอะไรได้อีกมากมายเลย

สวัสดีเหล่า Exhibitor ทุกท่านนนน วันนี้ Zipevent จะมาพูดถึงขั้นตอนการสมัครออกบูธตามงานอีเว้นท์ต่างๆ บางคนอาจจะคิดว่ายุ่งยาก ยิ่งถ้าเป็นงานแรกของร้านตัวเองก็คงยังไม่แน่ใจว่าจะต้องเริ่มตรงไหน จะต้องใช้ข้อมูลอะไร หรือจะต้องติดต่อออกาไนเซอร์ได้ยังไงบ้าง ซึ่งการติดต่อออกบูธขายของแต่ละงานนั้นก็จะแตกต่างกันไป แต่หลักๆ แล้วข้อมูลที่เราต้องส่งให้ทางผู้จัดงานก็มีอยู่ประมาณนี้แหละ ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง

ารจัดอีเว้นท์ขึ้นไม่ว่าจะสเกลเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนมีจุดประสงค์เพื่อโอกาสให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ และได้สัมผัสกับแบรนด์โดยตรง และเกิดการบอกต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความสำเร็จของอีเว้นท์จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่มีคนไปร่วมงาน ดังนั้นการโปรโมทงานให้ปัง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

สิ่งที่ยังคงเวิร์คมาถึงทุกวันนี้เวลามีงานอีเว้นท์เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานคอนเสิร์ต งานเอ็กซ์โป งานมาร์เก็ต หรืองานเวิร์คช็อปจากบริษัทต่างๆ ก็คือ การขายของที่ระลึกหน้างานนั่นเอง เป็นธรรมดาอยู่แล้วเมื่อเราอินหรือชื่นชอบอะไรมากๆ เราก็มักจะเป็นบ้าเป็นหลัง ขวนขวายสินค้า ของที่ระลึก เหล่านั้นมาครอบครองให้ได้ จะแพงแค่นไหนชั้นก็จะยอมมมมมมมมม !

แน่นอนอยู่แล้วว่าหลายๆ ร้านต้องมีเพจ Facebook เพื่ออัพเดทข่าวสารอยู่แล้วถูกมั้ยล่ะ ? หลังๆ มานี้ เราเห็นความโดดเด่นของการตอบสนองของแอดมินเพจ (Admin) ต่างๆ ทั้งสนุกสนาน ตลก มีเอกลักษณ์ และฉลาดในการตอบ ทำให้เป็นที่ฮือฮาของคนในโลกโซเชียล แถมยังช่วยให้ร้านค้าหรือแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ถึงยังไงความเหมาะสมและถูกต้องก็ต้องมาก่อน