การเต้น Zumba เป็นอีกการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง ที่คล้ายๆ กับการเต้นแอโรบิกลดน้ำหนักเพื่อคาร์ดิโอ เราสามารถเต้น Zumba ได้โดยที่ไม่มีพื้นฐานการเต้น เนื่องจากท่าในการเต้น Zumba จะใช้ท่าเต้นที่สามารถเต้นตามได้ง่าย เพียงแค่มีใจในการออกกำลัง และชอบความสนุกสนานเท่านี้ก็พอแล้ว

ขอบอกเลยนะว่าการเต้น Zumba ไม่ได้เพียงแค่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รูปร่างสมส่วน หรือมีความยืดหยุ่นเท่านั้นนะ แต่ยังช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 800-1,000 กิโลแคลอรีภายใน 1 ชั่วโมงอีกด้วย ยิ่งใครที่ต้องการลดไขมัน และกระชับสัดส่วนโดยเฉพาะบริเวณแขน สะโพก ต้นขา พร้อมกับการสร้างกล้ามเนื้อท้องและหลัง การเต้น Zumba นี่แหละเหมาะสุดๆ ทั้งออกกำลังกายแถมได้สนุกไปในตัวอีกด้วย

ถึงแม้ว่าในช่วงนี้หลายๆ คนอาจจะไม่อยากไปพบเจอกับผู้คนมากมาย ซิปอีเว้นท์เลยมีคอร์สเรียนเต้น Zumba อย่าง Moove Dance ที่เป็นคอร์สเรียนแบบออนไลน์ ซึ่งสอนโดนครูหนุ่ม ครูสอนเต้น Zumba คนแรกของประเทศไทย และมีประสบการณ์สอนมามากกว่า 10 ปี !

นี่เป็นครั้งแรกของคลาสเต้นออกกำลังกายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด สนุกกับเพลงไทย และ ลูกทุ่ง จากแกรมมี่ พร้อมเพลงสากลอีกเพียบ

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษจาก FitFest ที่อยากให้คนไทยสุขภาพดี 600 บาท สนุกได้ถึง 120 คลาส เพียงคลาสละ 5 บาท แต่ถ้าซื้อ 2 ใบลดราคาเหลือเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้น ฟิตกันยาวๆ ได้ถึง 2 กรกฎาคม 2564 สมัครได้เลย ที่นี่

ระยะเวลาคอร์ส : วันนี้ – 2 ก.ค. 64 (ดูย้อนหลังได้ตลอดเวลา)
ช่องทางการสอน : Facebook กลุ่มปิด

สอบถามเพิ่มเติม

• LINE@ : @fitfest
• Facebook : Inbox: FitFest
• Tel : 065 509 9084 (เวลาทำการ : 09.30-18.30 น.)

เชื่อว่าคอร์สเรียนเต้น Zumba อย่าง Moove Dance กับครูหนุ่มน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่เป็นสายสุขภาพอย่างแน่นอน หรือใครที่กำลังมองหาการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังได้ความสนุกอีกด้วย! ถ้าไม่อยากพลาดกิจกรรมดีๆ จากซิปอีเว้นท์ก็ติดตามพวกเราไว้เลยนะ

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post Moove Dance 2021 เต้นเปลี่ยนชีวิตไปกับครูหนุ่ม! appeared first on Zipevent.

ไปดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนให้นักช้อปได้ไปกันบ้างน้าาา~

happening home goods market

ตลาดรวมสินค้าน่ารักๆ ที่จะทำให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้น

ไม่ว่าจะของแต่งบ้าน ต้นไม้ สินค้าแบรนด์ดีไซน์ สินค้าแฟชั่น ของมือสองคัดสรรของศิลปินและดีไซเนอร์ อาหารออร์แกนิก ไปจนถึงงานศิลปะ เป็นงานที่จัดแบบ Open Air ในโครงการดาดฟ้า ซอยลาซาล 33 ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น อากาศถ่ายเท ล้อมรอบด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างร้าน โอ้กะจู๋, happening library, Gravity Artisan Cafe, มิตรปลาจุ่ม, Farm mu และ Sora Cafe นี่คืองานตลาดน่ารักๆ ที่เราอยากชวนให้คุณมาเดินหย่อนใจทุกเสาร์อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน

• Dadfa ดาดฟ้า ลาซาล 33 / BTS แบริ่ง จากนั้นต่อรถสาธารณะที่ปากซอย สุขุมวิท 105
• 13 มีนาคม – 14 มีนาคม 2564
• 11.00 – 20.00 น.

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/events/844481363066091/

Made By Legacy Flea Market No. 12

พบกัน 12-14 มีนาคมศกนี้ เมื่อตลาดนัดโมเดิร์น ‘เมด บาย เลกาซี่’ ได้กลับมาเปิดขึ้นกลางใจเมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้อนรับผู้ที่มาจากต่างตำบลต่างอำเภอ จังหวัดใกล้เคียงหรือห่างไกล ในบริเวณตลาดนัดจึงเต็มไปด้วยของขายที่ทำกันเอง สะสมมานมนาน หรือส่งมาจากต่างประเทศทั่วทุกสารทิศ พวกหนุ่มๆ สาวๆ แต่งตัวโก้ ใส่แว่นตากันแดดทั้งๆ ที่แดดยังไม่ทันจะออก ทั้งนาฬิกาข้อมือและแหวนห้อยกระเป๋าหนังสัตว์แท้ เชิ๊ตเรียบหลากสี ชุดเดรสลายสลับเดินขวักไขว่ กลายเป็นตลาดนัดจอแจสนุกสนานสำหรับนักเที่ยว นักเตร่ และหนุ่มสาวทั่วไป

• Sermsuk Warehouse, Pepsi Pier
• 12– 14 มีนาคม 5264
• 15.00 – 24.00 น.

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/events/480097846703366/

Finder Keepers Flea Market

มาร่วมใช้เวลาวันเสาร์กับการเลือกดูเสื้อผ้ามือสองกันเถอะ

Come spend your Saturday browsing through second-hand clothes, nibble on your favorite plant-based food, buying fresh flowers and go home with your favorite organic products

• EKM6 เอกมัยซอย 6
• 27 กุมภาพันธ์ 2564
• 10.00 – 19.00 น.

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/events/2992813864376420/

เป็นยังไงกันบ้างกับกิจกรรมที่ซิปอีเว้นท์ได้รวมมาให้เพื่อนๆ ได้ไปช้อปปิ้งกันแบบสบายใจ ถ้าจะออกไปพบเจอกับผู้คนก็อย่าลืมรักษาระยะห่างทางสังคม และรักษาสุขภาพให้ดี ด้วยความเป็นห่วงจากพวกเราซิปอีเว้นท์ และอย่าลืม! ติดตามซิปอีเว้นท์ไว้ด้วย ขอบอกว่ายังมีกิจกรรมดีๆ อีกมากมายให้เพื่อนๆ ได้ไปเข้าร่วมกันน้า~

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post ซิปรวม 3 Flea Market ที่นักช้อปตัวจริงห้ามพลาด! appeared first on Zipevent.

 Social Commerce 

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยังอยู่กับเรา และจะเพิ่มขึ้นไปอีกในปี 2021 ที่มีทั้ง Conversational Commerce และ Live Commerce โดยทั้ง 2 อย่างนี้เป็นสิ่งที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Facebook เองก็ได้ออกมาแนะนำเอเจนซี่ว่าให้หันมาเน้นเรื่อง Live Commerce ให้มากขึ้น และยังย้ำถึง Conversational Commerce อย่างต่อเนื่อง 

การ Live Commerce มีข้อดีมากๆ คือเป็นการ Entertain ผู้ชมให้สนุกไปด้วยในตัว ส่วน Conversatoinal Commerce ถือว่าเป็นการผสมระหว่างการชอปออนไลน์กับหน้าร้าน เนื่องจากผู้ซื้อไม่ได้กดหน้าจอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผู้ซื้อยังสามารถพูดคุยสอบถามและต่อรองกับผู้ขายได้เลยโดยตรงอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าตรงใจสายชอปอย่างแน่นอน

First Party Data 

อย่างที่เรารู้กันว่า โลกของเราในตอนนี้ได้ให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคมากขึ้น และได้มี พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA จากทางภาครัฐของไทย ทำให้เกิดการปรับตัวของ Platform และผู้ให้บริการระดับโลกก็ได้ออกแบบระบบใหม่ให้มีการเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน ทำให้นักการตลาดจำเป็นต้องหาวิธีในการเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายเอง แทนที่จะพึ่งบุคคลที่ 3 หรือ Third Party

ซึ่งในปัจจุบันการเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายโดยตรงของแบรนด์เองแบบนี้ เราเรียกกันว่า First Party Data โดยในปีนี้นักการตลาดต้องสร้างกลยุทธ์และออกแบบวิธีในการขอและจัดเก็บ First Party Data อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้มาไปต่อยอดในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลก่อนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

อีกวิธีที่ปลอดภัยและรวดเร็วในการเก็บข้อมูลคือ การให้กลุ่มเป้าหมายลงทะเบียนเพื่อรับสินค้าทดลองหรือรับส่วนลด นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผล และกลุ่มเป้าหมายได้ยินยอมในการที่จะให้ข้อมูลของตัวเองเป็นการตอบแทน

Short Video

อย่างที่เรารู้กันว่าคอนเทนต์แบบ  Short Video กำลังเป็นกระแสอย่างแรงตั้งแต่ปี 2020 ที่เน้นการดูผ่านแนวตั้งอย่าง TikTok หรือ Stories ตามแอปพลิเคชันต่างๆ และเชื่อว่าในปี 2021 นี้ก็ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ขอบอกเลยว่า Platform ต่างๆ ได้ออกฟีเจอร์วิดีโอแนวตั้งแบบนี้ครบหมดแล้ว

ทำให้แบรนด์เองก็จำเป็นต้องผลิต Video Ads ขึ้นมา นอกจากนี้ยังต้องตระหนักถึงเวลาของวิดีโอด้วย เพราะว่า video content เหล่านี้มีความยาวเพียงแค่ 15 วินาที หากโฆษณาเรามีความยาวเท่ากับ content เนื้อหาหลัก กลุ่มเป้าหมายของเราก็อาจจะไม่ให้ความสนใจจนเกิดความรำคาญ และอาจจะทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าทำไมต้องมาดูวิดีโอคั่นที่มีความยาวพอๆ กับตัวโฆษณาหลักเลยล่ะ และนอกจากนี้ก็ควรนำเสนอวีดิโอให้กลมกลืนกับรูปแบบของผู้ใช้งานด้วย

D2C (Direct to Consumer)

เรื่อง Direct to Consumer อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของใครหลายๆ คน แต่หลังจากเหตุการณ์ Covid-19 ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายๆ แบรนด์ได้ตระหนักกันมากขึ้นว่าการสื่อสารและขายผ่านผู้บริโภคโดยตรงด้วยช่องทางออนไลน์เลยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลได้จริงๆ แม้ว่าสัดส่วนจะน้อยกว่าการขายผ่านการค้าปลีกก็ตาม แต่แนวโน้มของผู้บริโภคก็ได้มีการตอบรับในทางที่สูงมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หรือที่เราเรียกกันว่า New Normal ซึ่ง D2C ก็เป็นอีกเรื่องที่ฝั่งแบรนด์ควรที่จะตระหนักมากขึ้น

Virtual Everything

อีกเทรนด์ที่เป็นสิ่งที่น่าจับตามองคือเรื่องของ Virtual ไม่ว่าจะเป็น Virtual Event, Virtual Concert, Virtual Seminar ซึ่งก่อนหน้าที่โลกของเรายังไม่มี Covid-19 พวก Virtual Experience เหล่านี้ก็ยังไม่ได้รับความสนใจมากนัก หรือเป็นเพียงแค่ความนิยมเฉพาะกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น แต่หลังจากที่ Covid-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วในโลกของเรา ก็ถือได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเลย

ขอบอกเลยว่าแบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ด้วย ไม่ว่าจะผ่านการเป็น Sponsor หรือ Colab กับผู้จัดก็ย่อมได้ หรือว่าการที่แบรนด์ได้จัดงานเป็นงานเปิดตัวสินค้าใหม่ด้วยลูกเล่นสนุกๆ น่าสนใจผ่าน live streaming และสื่อ interactive ต่างๆ ก็ทำได้อีกเช่นกัน

ซึ่งซิปอีเว้นท์เองก็มีบริการ Virtual Event หรืออีเว้นท์เสมือนที่จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ที่เข้าร่วมอีเว้นท์ เพราะว่าเราได้จำลองบรรยากาศอีเว้นท์ออฟไลน์มาไว้ตรงหน้าคุณแล้ว นอกจากนี้สามารถเข้าร่วมอีเว้นท์ได้จากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยใหม่ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

เจ้าตัว Virtual Event เนี่ยก็สามารถจัดงานได้หลายรูปแบบมากๆ อย่างเช่น

• คอนเสิร์ต / งานดนตรี / งานอาร์ต
• งานประกาศรางวัล
• สัมมนา / สนทนาธุรกิจ

และนอกจากนี้ซิปอีเว้นท์ก็ไม่ได้มีบริการเพียงแค่ Virtual Event เท่านั้น แต่เรายังมีบริการ Online Event อีกเช่นเดียวกัน ซึ่งการจัด Online Event เนี่ยก็มีความยืดหยุ่นในการรองรับการจัดอีเว้นท์ขนาดเล็กไปจนถึงอีเว้นท์ขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนมาก นอกจากนี้ซิปอีเว้นท์ของเรายังมีการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะรับมือกับจำนวนผู้คนที่เพิ่มขึ้น ในการเข้าร่วมอีเว้นท์จากทั่วทุกมุมโลกได้อีกด้วย

ถ้าใครสนใจที่อยากจะจัด Virtual Event และ Online Event กับซิปอีเว้นท์
ก็สามารถมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : sales@zipeventapp.com

เครดิต : Creative Talk

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post Digital Marketing Trends – 5 สิ่งที่น่าจับตามองใน Digital Marketing Trends 2021! appeared first on Zipevent.

“เคว้งคว้าง” คือสภาวะหรือสถานภาพระหว่างสองสิ่ง สภาวะเช่นนี้คล้ายกับการเดินไปสู่ทะเลทรายอย่างไร้เข็มทิศ ท่ามกลางความว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดนอกจากทราย เราจึงรู้สึกหลงทาง ไม่แน่นอน และไม่ปลอดภัย ความหวาดกลัวอันท่วมท้นเข้ามาครอบงำเมื่อสภาวะเช่นนี้เกี่ยวข้องกับความทะยานอยาก ความฝัน การงาน และความสัมพันธ์ การระบาดของโควิด-19 ทำให้เราเข้าสู่สภาวะเคว้งคว้างด้วยวิถีทางต่างๆ แทนที่จะกังวลในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ทำไมเราจึงไม่เรียนรู้ที่จะชื่นชอบในสิ่งที่เราไม่รู้?

นิทรรศการ The Dance in Between เป็นนิทรรศการที่ยกย่องสภาวะเคว้งคว้างซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ได้พบเจอ และบางครั้งก็มักจะถูกมองข้าม ในช่วงขณะที่ช่วงเวลาแห่ง “พื้นที่สีเทา” อาจจะทำให้หลายๆ คนอึดอัดใจ นิทรรศการนี้ศิลปินอยากจะเชิญชวนให้ผู้ชมได้มีปฏิสัมพันธ์กับความคลุมเครือของ “สิ่งที่ไม่ดำและไม่ขาว” ไว้อย่างสนุกสนานและแฝงข้อคิดไว้

ฮิโรโกะ หงษ์หยก (Hiroko Hongyok) ที่เป็นศิลปินเจ้าของผลงานในนิทรรศการนี้เติบโตมากับคำสอนของนิกายเซน วิธีการของเธอได้แรงบันดาลใจจากสุนทรียะในอุดมคติของญี่ปุ่นที่เรียกว่า “Ma” (間) หรือ “มะ” อันหมายถึง “ที่ว่างระหว่างสองสิ่ง ความเงียบที่อยู่ระหว่างเสียง ความนิ่งระหว่างการเคลื่อนไหว” เธอจึงนำเสนอคำว่า “มะ” (間) ผ่านรูปทรงนามธรรมที่เล่นกับขอบเขตแห่งการแบ่งขั้วอย่างตั้งใจ บินวนระหว่างการขยายและการหดตัว การเปิดเผยและการซ่อนเร้น ภายในและภายนอก การเคลื่อนไหวและความนิ่ง เฉกเช่นการเต้น ฮิโรโกะ เชิญให้ผู้ชมค้นพบกับสภาวะ “เคว้งคว้าง” และมีความสุขกับทุกชั่วขณะของชีวิต

ฮิโรโกะ หงษ์หยก เธอเป็นคนที่มักจะสงสัยและอยากรู้ในเรื่องการ ปะติดปะต่อของพื้นที่ที่ทำให้เธอได้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างการเปิดเผยและการปกปิด การขยายและการหดตัว เธอเลยพยายามสร้างพื้นที่แห่งนามธรรมขึ้นมาเพื่อสื่อถึงความเชื่อมโยงกันในของทุกสิ่ง เธอมักจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากปรัชญาแห่งสุนทรียะญี่ปุ่นในแง่ที่ว่าศิลปะเป็นพาหนะที่จะพาไปสู่ประสบการณ์ทางปรัชญาว่าด้วยความจริงในธรรมชาติ ฮิโรโกะแสวงหาวิถีทางอันเหมาะเจาะกับพื้นที่ที่ขยายออกไปเพื่อการไตร่ตรอง

หลังจากที่เธอได้จบการศึกษามาจากวิทยาลัยแห่งวิคตอเรียนของเมืองเมลเบิร์นทางด้านวิจิตรศิลป์ เธอก็ได้รับคัดเลือกในหมู่บัณฑิตที่จบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงทั่วรัฐวิคตอเรีย ให้จัดแสดงนิทรรศการกลุ่มเพื่อแสดงความสามารถของศิลปินรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองในปีนั้น ซึ่งแกลเลอรีท้องถิ่นแห่งหนึ่งชื่นชอบในการใช้รูปทรงที่ไม่เหมือนใครในงานจิตรกรรมของเธอเป็นอย่างมาก จึงเสนอให้เธอจัดนิทรรศการเดี่ยวเมื่อปีที่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์อันคาดไม่ถึงจากการระบาดของโควิด-19 อาจทำให้เธอเดินทางกลับไปออสเตรเลียไม่ได้ ในระหว่างนี้เธอมีสตูดิโอเล็กๆ อยู่ที่กรุงเทพฯ จึงสามารถสร้างงานจิตรกรรมขนาดใหญ่เพื่อให้เธอได้ทดลองและไตร่ตรองเมื่อได้สร้างงานที่เกี่ยวกับรูปทรงนามธรรม ถือเป็นความลงตัวที่ “The Dance in Between” นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเธอที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เป็นทั้งผลลัพธ์และบทกวีแด่ช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้

• วันนี้ – 14 มีนาคม 2564
• River City Bangkok ห้อง 248 ชั้น 2
• เข้าชมฟรี
• วันจันทร์-วันศุกร์ 11.00 น.-20.00 น.
• วันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 น.-20.00 น.

ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ยังคงเปิดทำการตามปกติ พร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพราะความปลอดภัยของท่านสำคัญยิ่งสำหรับเรา

ใครที่อยากรู้ว่าฮิโรโกะ หงษ์หยกต้องการจะสื่อถึงความเคว้งคว้างของมนุษย์ ผ่านผลงานศิลปะของเธอเองจะเป็นอย่างไร ก็ไปเจอกันได้ที่นิทรรศการ The Dance in Between เลย แต่ถ้าใครไม่อยากพลาดนิทรรศการศิลปะดีๆ แบบนี้ ก็อย่าลืมติดตามซิปอีเว้นท์ไว้ด้วย เรายังมีนิทรรศการงานศิลปะมาแบ่งให้เพื่อนๆ ชาวซิปอีกมากมายเลย

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post The Dance in Between – นิทรรศการที่ยกย่องสภาวะเคว้งคว้างของมนุษย์ appeared first on Zipevent.

การให้อภัยตัวเอง

มันก็คงมีหลายๆ ครั้งที่เราทำผิดพลาด เชื่อเถอะว่าชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้ถูกไปซะทุกเรื่องหรอก เราไม่ควรไปจมปลักและโทษตัวเองกับความผิดพลาดนั้น แต่เราควรที่จะยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เรียนรู้จากบทเรียนที่เราได้ทำผิดพลาดไป และให้อภัยตัวเองเพื่อที่จะก้าวข้ามผ่านความผิดพลาดนั้นไปให้ได้

แคร์สายตาคนอื่นเท่าที่จำเป็น

ในหัวข้อนี้ไม่ได้บอกให้ไม่สนใจใครเลย แต่จะบอกว่าเราสามารถเลือกแคร์เฉพาะคนใกล้ตัวก็พอ เราไม่สามารถไปแคร์สายตาทุกคนได้หรอก อะไรที่เราชอบหรือทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะ ถ้าสิ่งๆ นั้นไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

ฟังตัวเองให้มากขึ้น

เราไม่ควรฟังแต่คนอื่นว่าเราต้องทำอะไร เราควรที่จะหันมาฟังตัวเราเองด้วยว่าตัวเราต้องการอะไรกันแน่ สิ่งที่เป็นอยู่ สิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ใช่หรือไม่ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราควรจะอยู่กับสิ่งๆ นั้นต่อ หรือว่าจะออกมาจากสิ่งนั้นดีกว่า

สร้างความสุขให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

การสร้างความสุขให้กับตัวเองถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะชีวิตของคนในปัจจุบันมักจะอยู่กับความเคร่งเครียด และรีบเร่ง ถ้าเราหาความสุขมาเติมเต็มให้กับชีวิตเรา นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ อย่างการดูคลิปตลกๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้เรายิ้มได้แล้วใช่ไหมล่ะ

อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

เราไม่ควรที่จะเอาชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับชีวิตของคนอื่น โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ เพราะส่วนใหญ่คนเรามักจะนำเสนอชีวิตของตัวเองในด้านดีๆ อยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วก็ใช่ว่าชีวิตของทุกคนจะดีเหมือนในโลกออนไลน์ ทุกๆ คนล้วนมีปัญหาของตัวเองแตกต่างกันไป เราแค่ใช้ชีวิตให้ดีในแบบของเราก็พอ

ซึ่งเหมือนกับ Lido Connect presents “รักนะ … ตัวเอง” by Doer Lab

เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยดีพอบ้างมั้ย
หรือเผลอเอาตัวเองเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอดเวลา
รู้สึกว่าตัวเองคือเหตุผล ที่ทำให้ไม่เคยเจอความรักที่ดีในชีวิตเลย

มีคนเคยบอกไว้ว่า “ก่อนจะรักใคร ต้องรักตัวเองให้เป็นก่อน”
แต่การรักตัวเองนี่สิต้องทำยังไง

Lido Connect presents “รักนะ … ตัวเอง” by Doer Lab

ลิโด้ เปิดพื้นที่ปลอดภัย ให้ทุกคนได้ลองมาสำรวจตัวเอง
ทำความเข้าใจและรักตัวเองมากขึ้น ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 6
ตา-หู-จมูก-ปาก-สัมผัส-การทรงตัว
ผ่านการทำกิจกรรมแบบ Focus Group โดยทีม Doer Lab
และกระบวนการจากเพจวารีแห่งใจ
ที่จะทำให้เราเข้าใจความรู้สึกและร่างกายของตัวเองมากขึ้น
พร้อมของที่ระลึกกลับบ้านมากมาย

• วันอาทิตย์ 21 กุมภาพันธ์ รอบเดียว
• ลงทะเบียน 12:30 น.
• กิจกรรม 13:00 – 16:00 น.
• สำรองที่นั่งได้เลยที่ https://www.ticketmelon.com/lidocon…/lidoselflovebydoerlab

ผู้เข้าร่วมต้องเตรียมหูฟังมาเอง ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ
เตรียมขนมมาคนละ 1 อย่าง
สามารถนำหมอนหรือผ้าห่มมาร่วมงานได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธี รักตัวเองให้มากขึ้น ที่ซิปอีเว้นท์ได้รวบรวมมาให้เพื่อนๆ แถมยังมีกิจกรรมดีๆ ให้เราได้ทำความเข้าในและรักตัวเองมากขึ้นอีกด้วย ถ้าไม่อยากพลาดกิจกรรมดีๆ แบบนี้อีกก็ติดตามซิปอีเว้นท์ไว้ได้เลยย ~

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post รักตัวเองให้มากขึ้น กับ 5 วิธีที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง! appeared first on Zipevent.

ในยุคนี้ถือว่าเป็นยุคแห่งโลกาภิวัตน์ ที่สื่อโซเชียลมีเดียได้แพร่ไปยังผู้คนได้รวดเร็ว และมีอิทธิพลต่อผู้คนในโลกมากขึ้น ซึ่งการนำเสนอออกไปในบางครั้งนั้นอาจจะเป็นเพียงการชี้นำ และเมื่อ Visual Culture วัฒนธรรมทางสายตา การรับรู้ผ่านการมอง ถูกส่งผ่านในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วรรณกรรม ภาพยนตร์

และบางครั้งมาถูกครอบอยู่ภายใต้แนวคิดแบบทุนนิยมจนกลายเป็นกลไกผ่านการชวนเชื่อ อย่างเช่นกรณีที่ฉลามถูกนำเสนอให้ดูดุร้ายและน่ากลัว ตามวิธีคิดของงาน Damien Hirst ความงามในความน่ากลัว ที่ตั้งคำถามว่าฉลามเป็นสัตว์ดุร้ายจริงหรือไม่

บ่อยครั้งที่ค่านิยมของไทยถูกนำเสนอผ่านสื่อ ที่บ้างครั้งได้ส่งสารที่ผิดออกมาจนคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ อย่างเช่น ฉากตบจูบในวรรณกรรมเรื่องจำเลยรัก แท้ที่จริงแล้วมันคือเรื่องของความรุนแรงทางร่างกาย และจิตใจในรูปแบบความสัมพันธ์ของคนรัก

แม้กระทั่งจุดเริ่มต้นที่มาของนิทรรศการครั้งนี้ มาจากความสนุกสนานของเพลง กระเป๋าแบนแฟนยิ้ม ซึ่งเป็นการตั้งคำถามกับความรักที่ส่งมาให้ผู้หญิง ว่าจะยังอยู่ร่วมกันแค่เงินตรา ตามระบบทุนนิยมหรือไม่

ภาพยนตร์ได้มีวิวัฒนาการและรูปแบบเหนือกาล กล่าวคือเวลาในหนังมีการพูดถึงทั้ง อดีต ปัจจุบัน อนาคต ซึ่งก็ไม่ได้สะท้อน Visual Culture ในช่วงเวลานั้นๆ อย่างเดียว ซึ่งนิทรรศการกลุ่มนี้ได้ตั้งคำถามกับเวลาในยุคสมัยของผู้ชมที่ได้เปลี่ยนบริบทไปตลอดเวลา ทั้งเรื่องของความหมายและมุมมอง ซึ่งบางครั้งได้ส่งผลต่อเนื่องที่ต้องทำความเข้าใจ อย่างกรณี การพูดเรื่องการแต่งกายเครื่องแบบนักเรียน ในซีรีส์เรื่อง Hormones ที่ตัวละครเอกถูกนำเสนอว่าเป็นคนไม่ดี ที่แต่งกายไม่ถูกระเบียบ ซึ่งในวันนี้ บริบทต่างๆ ในสังคมของเราได้เปลี่ยนและสร้างความเข้าใจให้กัน และตั้งคำถามใหม่ว่าไม่ดีจริงหรือไม่ ซึ่งทางผู้กำกับก็ได้ออกมากล่าวคำขอโทษ “ที่วันนั้นรู้และเข้าใจได้แค่นั้น” ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างที่ดีในการทำความเข้าใจกับคำถามในนิทรรศการนี้

ความรัก ก็ถูกสร้างความเข้าใจด้วยบริบทนั้นเช่นเดียวกัน จนไม่สามารถแยกได้อย่างชัดเจน ซึ่งนิทรรศการในครั้งนี้ของศิลปินกลุ่มเป็นเพียงแต่การสะท้อนมุมมองในยุคปัจจุบัน ถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรม และค่านิยมของไทย ที่นำเสนอมุมมองผ่านงาน Expensive Love นอกเหนือจากงาน Luxury ในนิทรรศการ ghost ครั้งที่ 1 ที่จัดแสดงขึ้นที่ Bangkok city city ที่เคยกล่าวถึงเรื่องทุนนิยม

Visual Culture ในตอนนั้น กรอบอิทธิพลของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมไทยหรือทุนนิยมที่ถูกส่งเข้ามา และการนำเสนอซ้ำในรูปแบบเหนือกาล ทั้งการสะท้อนเวลาในตอนนั้นด้วย ซึ่งเหตุผลบางอย่างก็ส่งผลให้สังคมยังคงติดอยู่ในจินตนาการ จากสื่อที่เข้ามาในโลกสังคมเสรีแบบทุนนิยม ทำให้สังคมสร้างความเชื่อ และค่านิยมภายใต้บริบทวัฒนธรรมผ่านสื่อนั้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเราได้มีการตั้งคำถามและทำความเข้าใจกับมันหรือไม่

ถ้าใครอยากจะรู้ว่าศิลปินกลุ่มนี้เขาได้ตั้งคำถามกับเวลาในยุคสมัยของผู้ชมที่ได้เปลี่ยนบริบทไปตลอดเวลาอย่างไร ทั้งเรื่องของความหมายและมุมมอง ซึ่งบางครั้งได้ส่งผลต่อเนื่องที่ต้องทำความเข้าใจ ก็ไปเจอกันได้ที่ นิทรรศการ Expensive Love รักผ่อนส่ง ได้เลย

• เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 3 – 28 กุมภาพันธ์ 2564
• สถานที่ : LHONG 1919 ห้อง The Empress
• พิธีเปิด วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564
• เวลา 14.00 – 17.00 น.

แล้วมาดูกันว่าครั้งหน้าซิปอีเว้นท์จะชวนเพื่อนๆ ชาวซิปไปนิทรรศการไหนกันอีกน้าา ถ้าไม่อยากพลาดงานนิทรรศการศิลปะอะไรดีๆ อีก ก็อย่าลืมติดตามซิปอีเว้นท์ไว้น้า

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post Expensive Love กับการตั้งคำถามเกี่ยวกับความหมายและมุมมองของยุคสมัย appeared first on Zipevent.

โปสการ์ด ถือเป็นการสื่อสารที่โรแมนติกที่สุดรูปแบบหนึ่ง ด้วยด้านหนึ่งของโปสการ์ดเป็นรูปภาพหรือภาพถ่าย และอีกด้านเป็นข้อความต่างๆ ที่เขียนด้วยความเรียบง่าย และฉับไว ทำให้สื่อสารถึงผู้รับได้อย่างจริงจังและใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ แม้ว่ายุคนี้การส่งโปสการ์ดจะมีความนิยมที่ลดน้อยลง แต่การส่งโปสการ์ดยังเป็นของที่ระลึกยอดนิยมที่เราเห็นได้ทั่วไปอยู่ดี แถมคนที่ได้รับก็ยังรับรู้ถึงความสำคัญอีกด้วย

ซึ่งทีมงานของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (bacc) ได้เห็นว่าโปสการ์ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของงานศิลปะ ที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงงานศิลปะนี้ได้ง่าย ยิ่งในช่วงนี้ที่มีการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ทำให้หลายๆ คนในสังคมเรานั้นรู้สึกขาดพลังใจ ทีมงานของ bacc เลยคิดว่าในช่วงเวลานี้ หากได้รับโปสการ์ดที่เขียนให้กำลังใจจากใครสักคน ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ทีมงาน bacc จึงร่วมกับเครือข่ายจัดกิจกรรมสนุกๆ ให้ผู้คนมา ‘แลกโปสการ์ด’ แล้วส่งแรงใจและรับพลังใจจากคนแปลกหน้า ซึ่งล้วนเป็นคนที่อยู่ร่วมสังคมไทยด้วยกัน

bacc ได้เปิดพื้นที่ ผนังโค้ง ชั้น 5 เพื่อจัดนิทรรศการที่ชื่อว่า Postcard from a stranger ซึ่งไอเดียของนิทรรศการนี้มาจาก Postcard Wall ที่เต็มไปด้วยโปสการ์ดมากมายนับพันใบ แต่ละใบก็จะมีคนแปลกหน้าที่คอยเขียนให้กำลังใจคนแปลกหน้าอีกที แล้วให้ใครก็ได้มาหยิบโปสการ์ดเหล่านี้ได้คนละ 1 ใบ แต่นี่ไม่ใช่การหยิบไปได้แบบฟรีๆ นะ คุณต้องมีโปสการ์ดที่เขียนให้กำลังใจคนแปลกหน้ามาแลกด้วย 1 ใบ

วิธีการร่วมกิจกรรม

1. นำโปสการ์ดของตัวเองมาคนละ 1 ใบแล้วเขียนให้กำลังใจคนแปลกหน้า
2. หากไม่ได้นำโปสการ์ดมาด้วย สามารถไปเลือกซื้อโปสการ์ดต่างๆ ใน Art Hub ตามรายชื่อด้านล่างได้เลย
3. ติดโปสการ์ดของคุณด้วยเทป NITTO ไว้แล้วติดที่ตรงไหนก็ได้ของผนัง (ใช้วิธีม้วนเทปแล้วติดที่ด้านหลังของโปสการ์ด) หลังจากนั้นให้นำโปสการ์ดกลับไป 1 ใบ เพื่อเป็นการให้กำลังใจกับตัวคุณเอง

ใครอยากส่งโปสการ์ดมาร่วมตั้งต้นนิทรรศการนี้ด้วยกัน เขียนแล้วส่งมาได้เลย จะใบเดียว หรือ 10 ใบ หรือเป็นร้อยใบ ถ้าเขียนไหวก็อยากให้เขียนมา เสร็จแล้วรวบรวมส่งมาที่ happening shop ชั้น 3 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร 939 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

(ระบุว่าเป็นกิจกรรม Postcard From a Stranger นะ)

ถ้าไม่มีโปสต์การ์ดติดมือมา สามารถเลือกซื้อโปสต์การ์ดที่ร้านค้ารอบหอศิลป์กรุงเทพฯ ตั้งแต่ชั้น 1 ยันชั้น 5 เลย

• ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ ปี 2564
• หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
• ชั้น 5 บริเวณผนังโค้ง

ใครที่พร้อมมาให้กำลังใจคนแปลกหน้าแล้วก็มาเจอกันได้ที่นิทรรศการนี้ได้เลย แล้วมาจับมือผ่านสถานการณ์ที่ลำบากแบบนี้ไปด้วยกัน นอกจากนี้ก็อย่าลืมรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีนะ สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดนิทรรศการดีๆ ก็ต้องติดตามซิปอีเว้นท์ไว้ได้เลย เพราะว่าเรายังมีงานดีๆ อีกมากมายมาแบ่งเพื่อนๆ ชาวซิป!

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post Postcard From A Stranger – นิทรรศการที่ชวนคุณมาร่วมให้กำลังใจคนแปลกหน้า appeared first on Zipevent.

Cake Class Valentine’s Special

คลาสสอนทำเค้ก สอนตั้งแต่การทำเนื้อเค้ก ไปจนถึงการตีบัตเตอร์ครีม และเทคนิคการปาดครีมตกแต่ง นอกจากนี้ยังได้เค้กขนาดครึ่งปอนด์ พร้อมกล่องใส่พิเศษ! เลือกรสชาติเค้กเองได้ในราคาเท่ากัน ทั้ง Vanilla, Chocolate และ Red Velvet บอกเลยว่าเริ่ด!

• 12 – 14 กุมภาพันธ์ 2564
• 13.00 – 15.00 น. , 17.00 – 19.00 น.
• 3,290 บาท / 1-2 คน
• Siam Square (Lido Connect ชั้น 1)

สอบถามเพิ่มเติม : PP Baking Studio , LINE : @pp.bakingstudio

Couple Cake Box Workshop

ยังอยู่ที่เวิร์กชอปเกี่ยวกับเค้ก โดยคลาสนี้จะเป็นการแต่งหน้าเค้กด้วยตัวเอง ซึ่งผู้เรียนจะได้เค้กรส Vanilla ขนาด 10 x 10 cm. จำนวน 2 ชิ้น พร้อมกล่องใส่สไตล์เกาหลีสุดน่ารัก และมีครีมสีขาวพร้อมให้ผสมสี ตกแต่งได้เอง รับรองว่าถูกใจสาวๆ แน่นอน

• 12 – 14 กุมภาพันธ์ 2564
• 11.00 – 12.30 น. , 15.00 – 16.30 น.
• 1,290 บาท / 1-2 คน
• Siam Square (Lido Connect ชั้น 1)

สอบถามเพิ่มเติม : PP Baking Studio , LINE : @pp.bakingstudio

D.I.Y Cake 01

อีกหนึ่งคลาสแต่งหน้าเค้กด้วยตัวเอง ซึ่งผู้เรียนจะได้เค้กขนาดครึ่งปอนด์ (ปาดครีมแล้ว) พร้อมทั้งมีครีมสีขาว 100 กรัม ให้ผสมสี ตกแต่งได้เองตามใจชอบ

• 12 – 14 กุมภาพันธ์ 2564
• 13.00 – 14.30 น. , 17.00 – 18.30 น.
• 1,290 บาท / 1-2 คน
• Siam Square (Lido Connect ชั้น 1)

สอบถามเพิ่มเติม : PP Baking Studio , LINE : @pp.bakingstudio

จัดดอกไม้ฟูฟ่อง ปักกลิ่นไอปารีเซียง
( Parisian Floral Arrangement )

จะดีแค่ไหนถ้าในวันวาเลนไทน์เรามีดอกไม้ที่จัดเองนำไปให้คนพิเศษ คลาสเวิร์กชอปนี้เป็นคลาสที่ทุกคนจะได้จัดดอกไม้สวยๆ กัน โดยวัสดุที่ใช้จะเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ นานาพันธุ์ ธีมดอกไม้เป็นสีแดง-ชมพู รับรองว่าไม่เหมือนใครแน่อน

• 13 กุมภาพันธ์ 2564
• 10.00 – 13.00 น. , 14.00 – 17.00 น.
• ค่าเรียน 1,900 บาท
• สมัคร 2 ที่นั่ง เหลือเพียง 3,444 บาท (จากราคา 3,800 บาท)
• รับจำนวนจำกัดเพียง 12 ที่นั่ง / รอบ

สอบถามเพิ่มเติม : Olive Creative Laboratory – Workshop Studio

Farmhouses in a wheatfield near Arles workshop

ร่วมเวิร์กชอปวาดภาพสีอะคริลิกกับภาพ Farmhouses in a Wheat Field Near Arles ที่แวนโกะห์ได้วาดภาพนี้ขึ้นมาช่วงปี 1988 ในช่วงเวลาที่เข้าอยู่ ณ เมืองอาร์ล ประเทศฝรั่งเศส เขาได้รับแรงบัลดาลใจจากทิวทัศน์อันกว้างใหญ่สุดลูกลูกตา และได้ใช้ฝีแปรงสร้างสรรค์บรรยากาศของโรงนาที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ รวมไปถึงเทคนิคการแต้มปะบนดอกไม้ท่ามกลางท้องทุ่ง

• 14 กุมภาพันธ์ 2564
• เวลา 13.00 – 18.00 น.
• ราคา 1,300 บาท (รวมขนมและเครื่องดื่ม)

สมัครหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Inbox message
m.me/tentaclesn22

Resin and dry flower jewelry

Resin and dry flower jewelry เครื่องประดับจากดอกไม้แห้ง เปิดรับสมัคร เวิร์กชอป ทำเรซิ่นดอกไม้แห้ง เพื่อเป็นเครื่องประดับต่างๆ ตามแบบฉบับของครูเตย ทีฟอเรสต์ เพื่อนำไปใช้เองหรือเป็นของขวัญ ของฝากให้กับคนพิเศษของคุณ

• 13 กุมภาพันธ์ 2564
• เวลา 11.00 – 14.00 น.
• ราคา 1,600 บาท (มา 2 ท่านลด 5%)
•  Pesano Decor หมู่บ้านสัมมากร ราม 112

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : Line : nukluler

Watarcolor Bakery Diary

มาที่สายวาดรูปกันบ้าง กับเวิร์กชอป “เก็บภาพด้วยสายตา สเก็ตออกมาด้วยหัวใจ” (Watercolor Daily Diary) #ครั้งที่59 ที่ทุกคนจะได้ร่วมวาดรูปสเก็ตสวยๆ เก๋ๆ ไว้มอบให้คนพิเศษกัน งานนี้ห้ามพลาดเลยนะ!

• 14 กุมภาพันธ์ 2564
• เวลา: 10.00 – 17.00 น.
• ค่าเรียน 2,800 บาท
• พิเศษ สมัคร 2 ที่นั่ง เหลือเพียง 4,444 (จากราคา 5,600)
• รับจำนวนจำกัดเพียง 12 ที่นั่ง

สอบถามเพิ่มเติม : Olive Creative Laboratory – Workshop Studio

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการรวม เวิร์กชอปวาเลนไทน์ มาให้เพื่อนๆ ชาวซิปได้กุมมือคนสำคัญ ไปทำกิจกรรมน่ารักๆ ด้วยกัน อดใจไม่ไหวอยากจะรีบไปเข้าร่วมเวิร์กชอปกันเลยใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่อยากพลาดการรวมเวิร์กชอปดีๆ ก็อย่าลืมติดตามพวกเราไว้นะ ขอบอกเลยนะว่าซิปอีเว้นท์ยังมีกิจกรรมดีๆ อีกมากมายมาแบ่งทุกคน

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post กุมภาแล้ว ก็อย่าลืมกุมมือคนสำคัญไปทำเวิร์กชอป! appeared first on Zipevent.

งานนี้เราจะได้พบกับสินค้าไอเดียสุดชิค พร้อมทั้งต้นไม้อีกมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ประดับชื่อดัง หรือต้นไม้หายาก ก็มีทั้งนั้น ใครที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้บอกเลยว่าห้ามพลาด  ส่วนใครที่เป็นมือใหม่ในการปลูกต้นไม้ เราขอบอกเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะภายในงานยังมีผู้เชี่ยวชาญที่จะมาให้คำแนะนำคุณอย่างใกล้ชิด

ไฮไลท์ที่รองลงมาจากต้นไม้ก็คือของตกแต่งบ้าน ที่ทำให้เราได้ผุดไอเดียมากมายจากการได้มาเข้าร่วมในงานนี้ ของตกแต่งบ้านที่ว่า ไม่ใช่ว่าจะเอาไว้ตกแต่งที่บ้านเท่านั้นนะ ใครที่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ออฟฟิศก็สามารถนำไปตกแต่งโต๊ะทำงานได้อีกด้วย

งานอาร์ตแอนด์คราฟต์ สินค้างานดีไซน์บอกเลยว่าพลาดไม่ได้แล้ว เพราะงานนี้ได้รวมร้านค้างานอาร์ตแอนด์คราฟต์ สินค้างานดีไซน์มาให้เราได้เดินดูอย่างมากมาย เป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

แถมในงานนี้ยังมีเสื้อผ้าที่เป็นแบรนด์ไทยอีกมากมาย ใครที่เป็นแฟนผ้าไทยก็ต้องมาเดินดูแล้ว ขอบอกเลยว่าถึงจะเป็นผ้าไทย แต่ก็เป็นดีไชน์และลวดลายสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน

งานนี้ซิปเชื่อว่าหลายๆ คนจะได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอย่างแน่นอน และนอกจากนี้ภายในงานยังมีสินค้าราคาพิเศษสำหรับผู้ที่ได้มาเข้าร่วมงานนี้อีกด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยสำหรับงานนี้ ก็คือมีการคำนึงถึงเรื่องมาตรการในด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะมีการทำความสะอาดพื้นทุกๆ 2 ชั่วโมง และมีทีมงานประจำจุดต่างๆ ที่สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และมีจุดติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ในพื้นที่ ทางทีมงานเลยขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมงานในพื้นที่สวมใส่หน้ากากตลอดเวลา

แล้วมาเจอกันที่งาน Mega Green & Craft Space #2

• บริเวณทางเข้าอิเกีย ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา
• วันนี้ – 14 กุมภาพันธ์ 2564

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายๆ คนอยากจะพุ่งตัวไปที่งานเลยใช่ไหมล่ะ บอกเลยว่าถ้าไปงานนี้เราจะพบกับไอเดียในงานแต่งบ้านอย่างมากมายเลย ใครที่เป็นคนรักการปลูกต้นไม้ต้องประทับใจอย่างแน่นอน แล้วมาดูกันว่าครั้งหน้าซิปมีงานอีเว้นท์ปังๆ มาให้ทุกคนได้ไปเข้าร่วม รอติดตามได้เลย!

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post ซิปอีเว้นท์ชวนเพื่อนๆ หาไอเดียแต่งบ้านกับงาน Mega Green & Craft Space #2 appeared first on Zipevent.

Impressionism หรือกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสม์ เป็นขบวนการที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่เริ่มจากการรวมตัวกันจากกลุ่มจิตรกรเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในกรุงปารีส และพวกเขาได้เริ่มจัดแสดงงานศิลปะในช่วงทศวรรษที่ 1860 ซึ่งชื่อของขบวนการนี้ได้มาจากภาพวาดของ โกลด มอแนที่มีชื่อว่า Impression, Sunrise และนักวิจารณ์ศิลปะที่ชื่อว่า หลุยส์ เลอรัว ก็ได้นำคำนี้มาใช้อย่างไม่ตั้งใจในบทความวิจารณ์ศิลปะที่มีเนื้อหาเชิงเสียดสี ซึ่งบทความนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เลอชารีวารี ทำให้อิทธิพลของกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสม์ ได้แพร่กระจายไปยังวงการดนตรีและวรรณกรรมอีกด้วย

ลักษณะของภาพวาดกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสม์จะใช้พู่กันตวัดสีอย่างเข้มๆ และเลือกใช้สีสว่าง ๆ โดยจะเน้นไปยังคุณภาพที่เปลี่ยนไปของแสงซึ่งเกิดจากการเวลาที่แตกต่างกันไป เนื้อหาของภาพจะเป็นเนื้อเรื่องธรรมดา ที่มีมุมมองที่แสนจะพิเศษ

จิตกรกรกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสม์มักจะมีรูปแบบที่แตกต่างจากการวาดในยุคนั้นที่ได้สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต พวกเขาได้ถือว่าเป็นขบถเพราะว่าพวกเขาวาดภาพสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในปัจจุบัน ให้ออกมาได้ดูประหลาดและไม่สิ้นสุดสำหรับคนที่ได้มาดูภาพวาดของพวกเขา จิตรกรในกลุ่มนี้มักจะปฎิเสธการนำเสนอความงามในอุดมคติ และมองไปยังความงามที่เกิดจากสิ่งที่เราได้ธรรมดาทั่วไปแทน พวกเขานิยมวาดภาพกลางแจ้งมากกว่าอุดอู้แต่ในห้องสตูดิโอ แบบที่ศิลปินทั่วไปในยุคนั้นนิยมทำกัน เพราะพวกเขาต้องการที่จะดูการเปลี่ยนแปลงของที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอในมุมมองต่างๆ

ภาพวาดในแบบอิมเพรสชั่นนิสม์ จะประกอบไปด้วยการตวัดพู่กันแบบเป็นเส้นสั้นๆ ซึ่งการทำแบบนี้สีจะไม่ได้ผสมหรือว่าแยกเป็นสีใดสีหนึ่ง จึงจะได้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวา พื้นผิวของภาพวาดจิตรกรมักจะระบายสีแบบหนาๆ ซึ่งการระบายสีแบบนี้จะต่างจากภาพวาดในยุคก่อนๆ ที่จะเน้นการผสมสีที่มีความกลมกลืนเพื่อทำให้คนที่มาดูภาพวาดรู้สึกว่ามองภาพที่อยู่บนเฟรมให้น้อยที่สุด แต่องค์ประกอบของกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสม์จะถูกทำให้ดูง่ายและแปลกใหม่ แถมยังเน้นไปถึงมุมมองที่กว้างขวางมากกว่ารายละเอียด

ศิลปะของกลุ่ม Impressionism ได้มีการสอดแทรกการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า Impressionist movement ที่ได้มาพร้อมกับแนวคิดของคนที่เริ่มยอมรับในความเป็นตัวเองมากขึ้น และเริ่มรับรู้ถึงความงามจากสิ่งที่เรียบง่าย ไม่ต้องเป็นสิ่งที่ Perfect หรืออะไร เป็นเพียงแค่ความประทับใจในวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็มีคุณค่าได้เหมือนกัน

ศิลปินที่สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนคนแรกๆ ในครั้งนี้คือ Claude Monet ที่ได้ย้ายมาวาดภาพในสตูดิโอ ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ทั้งแสง เงา และตัวแบบ โดยสไตล์ของ Monet คือจะเน้นวาดภาพคนธรรมดาในท่าทางต่างๆ หรือไม่ก็วาดรูปเรือ รูปสะพาน หรือแม้กระทั่งรูปลูกเมียของตัวเอง ที่สำคัญคือการใช้สีน้ำมันวาดภาพออกมาอย่างรวดเร็วด้วยแปรงที่หยาบและสั้นเพื่อจับจังหวะของแสงแดดและความเคลื่อนไหวในเวลานั้น ที่คนวาดรู้สึกกระทบจิตใจมากกว่าเน้นความสมจริง ไม่ต้องมีเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ ถ้าใครได้เห็นงานศิลปะของ Monet จะพบว่าดูแทบไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร

ซึ่งผลงานของ Impressionism ถูกรวบรวมและนำเสนอนิทรรศการมัลติมีเดียของที่สุดแห่งศิลปะอิมเพรสชั่นนิสม์กับผลงานมาสเตอร์พีซในรูปแบบดิจิทัลกับงาน THE IMPRESSIONISTS ที่จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลกรุงเทพฯ (MODA – Museum of Digital Art Bangkok) ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก

นิทรรศการ The Impressionists จะพาคุณย้อนเข้าสู่เรื่องราวของศิลปินกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสต์ผ่านภาพผลงานของพวกเขา และเพลงประกอบในรูปแบบมัลติมีเดีย นอกจากนี้ยังมีมุมให้ถ่ายรูปมากมายไม่ว่าจะเป็นถนน หรือ คาเฟ่จำลอง ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศของกรุงปารีสในยุคศตวรรษที่ 19 ได้อย่างเต็มอิ่มด้วยพื้นที่ทั้ง 4 โซน

นิทรรศการนี้ได้จะพาคุณย้อนเข้าสู่เรื่องราวของศิลปินกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสต์ผ่านภาพผลงานของพวกเขา และเพลงประกอบในรูปแบบมัลติมีเดีย เปิดให้เข้าชมวันแรกในวันที่ 8 มกราคม ถึง 18 เมษายน 2564 ที่ MODA Gallery ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบ็งค็อก สามารถซื้อบัตรได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่นี่

• 8 มกราคม – 18 เมษายน 2564 
• เปิดทำการทุกวัน
• 11:00 – 20:00 น.

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อยากไปดูกันแล้วล่ะสิ ยังไงได้ติวเข้มวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์กับยุค Impressionism ไปแล้วก็เตรียมตัวไปดูงาน THE IMPRESSIONISTS ได้แล้ว ใครที่เป็นแฟนงานศิลปะพลาดไม่ได้เด็ดขาด! ครั้งหน้ามาดูกันว่ารอบหน้าซิปจะพาทุกคนไปติววิชาอะไร ถ้าอยากรู้ก็ติดตามพวกเราไว้เลย~

ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

• Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
• Instagram: @Zipevent
• Website: www.zipeventapp.com
• Twitter: @Zipevent
• Facebook: @Zipevent

The post ซิปติวเข้ม! วิชาประวัติศาสตร์ศิลป์กับยุค Impressionism appeared first on Zipevent.