ปังมากพี่นัท! กับวันจันทร์ทีไร ชาวซิปอีเว้นท์ก็จะไม่มีที่ไปทุกที เพราะส่วนมาก แกลลอรี่ หอศิลป์ หรือพิพิธภัณฑ์ ก็พร้อมใจกันปิดทั้งสิ้น และลูกเพจ Zipevent ก็ Inbox ทักกันมาหลายคนแล้วว่า วันจันทร์ มีที่ไหนให้ไปเสพงานนิทรรศการบ้าง จะแล้วมั้ย? เนื่องจาก Zipevent เป็นเพจบันเทิงอีเว้นท์อันดับหนึ่งของประเทศไทย และยังเป็นแฟนคลับหลายๆ เพจ ก็จะพาเหล่าผู้อ่าน ไปพบกับ 15 สถานที่เปิดให้เข้าชมในวันจันทร์ ในสไตล์ซิปอีเว้นท์
Yelo House
YELO House คือโกดังเก่าที่ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับผู้มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นเวทีโชว์ไอเดียใหม่ๆ จัดแสดงผลงานศิลปะ นัดประชุม หรือพบปะสังสรรค์ โครงสร้างของโกดังมีพื้นที่ 480 ตารางเมตร ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 7 เมตร เราปรับปรุงพื้นที่ภายในให้สอดคล้องกับการใช้สอยหลากหลายรูปแบบ โดยยังรักษาโครงสร้าง พื้นผิว และเสน่ห์เดิมของโกดังแห่งนี้ไว้เช่นเดิม
YELO House อยู่ในซอยเกษมสันต์ 1 ใกล้หอศิลป์กรุงเทพฯ (ฝั่งตรงข้ามมาบุญครอง) เราอยู่ใกล้ BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และสถานีราชเทวี หรือจะเดินต่อมาจากสยามก็ไม่ไกล และพื้นที่ด้านหลังติดทางเดินริมคลองแสนแสบ ทำให้สามารถเดินทางมาโดยเรือโดยสารคลองแสนแสบ ท่าสะพานหัวช้างได้ด้วยเช่นกัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่าน YELO House โดยใช้เป็นทางลัดไปพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน และท่าเรือสะพานหัวช้างได้
what’s inside
พื้นที่แรกที่รอต้อนรับคุณเมื่อก้าวเข้ามาใน YELO House คือโถงแกลลอรี่ของเรา พื้นที่แกลเลอรี่สำหรับแสดงงานศิลปะนี้ต่อขึ้นไปยังโถงด้านบน ซึ่งพื้นที่เดียวกันนี้ใช้สำหรับจัดกิจกรรม และ workshop ด้วยฝั่งตรงข้ามพื้นที่แกลเลอรี่ และพื้นที่ชั้นล่างที่เหลือแบ่งเป็นห้องสำนักงานให้เช่า และห้องประชุม ซึ่งแต่ละยูนิตจะมีพื้นที่ต่างกันไป และสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 2-9 คน
ต่อไปทางด้านหลังของอาคารเป็นพื้นที่ติดทางเดินริมคลองแสนแสบ ซึ่งเราแบ่งชั้นบนเป็นร้านอาหาร ‘Hungry Me’ และชั้นล่างเป็นร้านกาแฟและเครื่องดื่ม ‘Thirsty You’ ด้วยหน้าต่างกระจกโปร่ง คุณสามารถนั่งชมวิวทางน้ำของกรุงเทพได้ ขณะดื่มด่ำไปกับอาหารและเครื่องดื่ม
YELO House เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09:00 – 21:00 น. โทร +669 8469 5924
พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน
ใกล้กับ Yelo House จะพบกับเรือนไทย จิม ทอมป์สัน เป็นบ้านของ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน นักธุรกิจผู้ประกอบการชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมผ้าไหมไทย จิม ทอมป์สัน ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ปี พ.ศ. 2501 จิม ทอมป์สัน เดินทางไปพักผ่อนที่แคมเมอรอนไฮแลนด์ส ประเทศมาเลเซีย เขาออกเดินเท้าเข้าป่าที่ห้อมล้อมอยู่ไปและไม่ได้กลับมาอีกเลย นับเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานเรื่องจิม ทอมป์สัน
เรือนหมู่ ประกอบด้วยเรือนทรงไทยปลูกด้วยไม้สัก 6 หลังที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของบ้านเดิมจากที่ต่างๆในประเทศไทย นอกจากนั้น ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัตถุโบราณและศิลปะร่วมสมัย โดยเฉพาะงานศิลปกรรมของเอเชีย จัดแสดงเป็น 4 หมวดหมู่ คือ ปฏิมากรรมและประติมากรรม จิตรกรรม เครื่องกระเบื้องเคลือบ ของสะสมอื่นๆ
ในปีพ.ศ. 2519 ทรัพย์สินของจิม ทอมป์สันได้รับอนุญาตตามศาลจากรัฐบาลให้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิ เจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มูลนิธิได้รับมอบหมายในการสงวนรักษาศิลปะและมรดกวัฒนธรรมไทย และยังได้สนับสนุนโครงงานวิจัยสัมมนาและสิ่งต่างๆ มากมายเพื่อผลักดันตามวัตถุประสงค์
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. กำหนดเวลาของทัวร์ที่มีมัคคุเทศก์นำชม รอบสุดท้ายอยู่ที่เวลา 18.00 น. โทรศัพท์ : 0-2216-7368 ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท นักเรียน – นักศึกษา (อายุต่ำกว่า 22 ปี) 100 บาท
หอศิลป์จามจุรี | Chamchuri Art Gallery
เมื่อประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในสมัยที่ศาสตราจารย์ ดร.เกษม สุวรรณกุล เป็นอธิการบดี ได้แสดงว่าเห็น ถึงความสำคัญของงานศิลปกรรมที่มีคุณค่าของศิลปินไทยในปัจจุบัน เมื่อประมาณ พ.ศ.2516 ได้เริ่มรวบรวมและจัดหางานศิลปกรรมของศิลปินที่มีชื่อและมีศักยภาพในตอนนั้น ต่อมาประมาณ พ.ศ.2527 จึงจัดให้มีโครงการรวบรวมผลงานศิลปกรรมขึ้น โดยมอบหมายให้ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ปัจจุบัน คือ สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม) เป็นผู้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 30 ปี งานศิลปกรรมดังกล่าวได้นำไปติดตั้งในอาคารต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยเพิ่มเสริมสร้างบรรยากาศทางศิลปะ อันจะนำไปสู่การปลูกฝังสุนทรียศิลป์ และการจรรโลงจิตใจของชาวจุฬาฯ โดยทั่วไป
ผลงานศิลปกรรมเท่าที่รวบรวมและจัดหามาได้จนถึงขณะนี้ มีเป็นจำนวนมาก จนนับได้ว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งใหญ่แหล่ง หนึ่งของประเทศไทยในขณะนี้ และสามารถแสดงถึงวิวัฒนาการของงานศิลปกรรมในประเทศไทยในขณะนี้ สามารถแสดงถึงวิวัฒนาการของงานศิลปกรรมในประเทศไทย ตั้งแต่เริ่มแรกของยุคศิลปะเฟื่องฟูมาจนถึงปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์
มาบัดนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดตั้งหอศิลป์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อความคิดในเชิงสนับสนุน สร้างสรรค์ และเผยแพร่งานศิลปกรรมและศิลปินไทยอีกขั้นหนึ่ง โดยได้กำหนดฤกษ์อันเป็นมงคลยิ่ง ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2544 ในฐานะที่ทรงเป็นองค์อัครศิลปินของชาติ
ที่อยู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารจามจุรี 8 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์0-2218-3709 เข้าชม ฟรี ทุกวัน จันทร-ศุกร์ 10.00-19.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 12.00-18.00 น. ปิดให้บริการเทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์
วังสวนผักกาด
วังสวนผักกาด เป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่เจ้าของบ้าน คือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต หรือ เสด็จในกรมฯ และ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร หรือ “คุณท่าน” ได้เปิดบ้านซึ่งหลายคนรู้จักในนาม “วังสวนผักกาด” ให้บุคคลภายนอกเข้าชมในขณะที่ท่านเจ้าของยังคงใช้เป็นที่พำนักนับแต่ พ.ศ. 2495 เป็นต้นมา
ด้วยนิสัยและความรักในการสะสม เสด็จในกรมฯ ทรงรวบรวมศิลปะและโบราณวัตถุอันล้ำค่าที่สืบทอดมาจาก จอมพลเรือ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต (ทูลกระหม่อมบริพัตรฯ) ต้นราชสกุลบริพัตร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี นอกจากนี้ เสด็จในกรมฯ และ “คุณท่าน” ต่างร่วมกันสะสมศิลปะและโบราณวัตถุชิ้นสำคัญอื่นๆ ของทั้งชาติไทย และของโลกไว้อีกเป็นจำนวนมาก โดยเก็บรวบรวมไว้ ณ วังสวนผักกาด
ภายในบริเวณวังสวนผักกาด ประกอบด้วยเรือนไทยโบราณ 8 หลัง บางหลังเป็นของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ ซึ่งเป็นต้นสกุลทางพระมารดาของทูลกระหม่อมบริพัตรฯ พระราชบิดาของเสด็จในกรมฯโดยแต่ละหลังจัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุต่างๆ อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
เปิดทุกวัน 09:00 – 16:00 น. โทรศัพท์ : 0-2246-1775-6 ext. 226,0-2245-4934 ค่าเข้าชม คนไทย 50 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีพญาไท ทางออก 4 และรถโดยสายรถประจำทางสาย 14, 17, 72, 74, 77, 204, 539
BAB Box, One Bangkok
การริเริ่มก่อตั้ง BAB Box, One Bangkok เกิดจากการร่วมมือร่วมใจระหว่างมูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ และโครงการ One Bangkok โดยทั้งสององค์กรมีจุดมุ่งหมายร่วมกันที่จะ พัฒนาพื้นที่และชุมชนเขตลุมพินี อาคาร BAB Box, One Bangkok แห่งนี้ มีเป้าหมายจัดให้เป็น พื้นที่ที่จะขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์พร้อมให้ความรู้ไปในเวลาเดียวกัน ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้เยี่ยมชมสามารถหาชมผลงานศิลปะและงานออกแบบระดับโลก ด้วยบรรยากาศสบายๆ ของทั้งอาคารและกิจกรรมที่จัดขึ้น สามารถเชื้อเชิญให้เกิดบทสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ระหว่างผู้ชมด้วยกันเองได้
BAB Box, One Bangkok ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. 2561 เพื่อจัดงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ครั้งแรกขึ้น ภายใต้ธีม ‘Beyond Bliss’ ผลงานที่จัดแสดงนั้น แสดงถึงปรัชญาของความสุข ซึ่งแบ่งเป็นประเด็นย่อยหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวงจรชีวิตของ มนุษย์ ศาสนา รวมถึงประเด็นทางสังคมและการเมืองในยุคปัจจุบัน โดยผ่านมุมมองที่หลากหลายของ ศิลปินที่มีชื่อเสียงก้องโลก ได้แก่ ฟรานเซสโก เคลเมนเต้ ฌอง มิเชล บาสเกีย แอนดี้ วอร์ฮอล์ มารีนา อบราโมวิช เออีเอส+เอฟ นที อุตฤทธิ์ จานัน ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ โยชิโตโมะ นาระ ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ ชเว จอง ฮวา ฮูปแต้มลาว-ไทย และพิเชษฐ กลั่นชื่น
และที่สำคัญอาคาร BAB Box, One Bangkok ยังเป็นพื้นที่ที่มูลนิธิบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ เดินหน้าจัดนิทรรศการ ศิลปะและกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ระหว่างก่อนและหลังเทศกาลบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ในแต่ละครั้ง BAB Box, One Bangkok ต้องการเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนา วงการศิลปะในประเทศไทย
เปิดทุกวัน 10:00 – 21:00 น. ปิดเฉพาะวันอังคาร ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10300 Lumphini station (สถานี ลุมพินี) Exit (ทางออก) 3
หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ|The Queen’s Gallery
เปิดดำเนินการครั้งแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2546 จากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของศิลปินชาวไทยโดยเฉพาะศิลปินรุ่นใหม่ที่มีผลงานดีเด่นแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ตลอดจนถึงศิลปินอาวุโสที่ได้รับการยกย่อง โดยทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินจำนวน 7 ล้านบาท
ซึ่งคุณชาตรี โสภณพณิช ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ และคณะรวม 7 รายทูลเกล้าฯ ถวายในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัล “จิตรกรรมบัวหลวงต้นแบบภาพปัก เพื่อมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ณ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ สีลม เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2544 เพื่อใช้เป็นทุนประเดิมในการจัดตั้งหอศิลป์
เมื่อได้พิจารณาถึงพระราชดำริและรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมของหอศิลป์แล้ว คุณชาตรีมีความเห็นว่า พื้นที่ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานผ่านฟ้าเป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับปรับปรุงก่อสร้างเป็นหอศิลป์ เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งอยู่ถนน ราชดำเนินกลาง ที่มีความสะดวกในด้านการคมนาคม เป็นเส้นทางพระราชดำเนิน และอยู่ใกล้เคียงกับสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ จึงเสนอเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการ ซึ่งได้เห็นพ้องต้องกัน
โดยได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เพื่อขอรับพระราชทานราชานุญาตและพระราชวินิจฉัยในการจัดตั้งคณะกรรมการหอศิลป์และการปรับปรุงตามลำดับ เป็นผลให้การดำเนินงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยพื้นที่สำหรับจัดนิทรรศการมีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นที่ 1-4 เป็นนิทรรศการหมุนเวียนตลอดทั้งปี และชั้นที่ 5 สามารถใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเผยแพร่งานศิลปะสู่สังคมในวงกว้าง
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดที่ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามหอศิลป์แห่งนี้ตามพระนามาภิไธยว่า “หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” และคณะกรรมการหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้นำเงินพระราชทานจำนวน 7 ล้านบาทนั้น มาเป็นทุนประเดิมจดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ซึ่งผลการดำเนินงานต่างๆ ของมูลนิธิหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ สามารถสนองพระราชดำริและพระมหากรุณาธิคุณได้อย่างเป็นรูปธรรมสืบไป
หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 101 ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์: 02-281-5360-1 ค่าเข้าชม 50 บาท ติดต่อเราได้ที่ info@queengallery.org
หอศิลป์กรุงไทย (Krungthai Art Gallery)
“หอศิลป์กรุงไทย” แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม เปิดทําการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551 ดําเนินงานภายใต้ “ฝ่ายกิจการเพื่อสังคม” ของธนาคาร เป็นโครงการขยาย ผลจากโครงการ “กรุงไทย สานศิลปวัฒนธรรม” ที่ธนาคารได้สนับสนุนงบประมาณในการจัด งานและสนับสนุนรางวัล “Krungthai Purchasing Prize” แก่ศิลปินที่มีผลงานดีเด่นในงานแสดง ศิลปกรรมแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2546 – 2558 รวมทั้งการดำเนินโครงการ “ประกวดศิลปกรรมกรุงไทย” ของธนาคารเอง ที่ทําให้ธนาคารมีผลงานสะสม ทั้งงานจิตรกรรม ภาพพิมพ์ สื่อประสม และประติมากรรม จํานวนมาก กว่า 250 ชิ้น
ธนาคารเห็นถึงความ “ไม่พอเพียง” ของพื้นที่ทางศิลปะว่าเมื่อไร้ “จุดนัดพบ” ศิลปะก็ไม่สามารถเข้าถึงคนหมู่มากได้ จะทำอย่างไรให้สังคมได้รับโอกาสมากขึ้น เมื่อแนวคิดนี้ประกอบกับการที่ธนาคารมีผลงานสะสมมากขึ้น ความต้องการ “แบ่งปันศิลปะ” จึงผลักดันให้เกิดพื้นที่การเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมขึ้น ธนาคารได้ปรับปรุงอาคารสาขาเยาวราช ซึ่งเป็นอาคารสํานักงานใหญ่แห่งแรก ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีสอันสวยงามและเก่าแก่อายุกว่า 70 ปี ให้เป็นแกลเลอรี่ศิลปะร่วมสมัย จัดแสดงผลงานศิลปกรรมสะสมและเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้แสดงนิทรรศการหมุนเวียน รวมทั้งจัดกิจกรรมศิลปะ สนับสนุนกิจกรรมเสริมการศึกษาแก่โรงเรียนในบริเวณใกล้เคียง
และเผยแพร่กิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยแบ่งการใช้ พื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน คือ โถงอเนกประสงค์ ชั้น 1 (บริเวณด้านหน้าสาขาเยาวราช) ห้องแกลเลอรี่ถาวร ชั้น 2 จัดแสดงผลงานศิลปกรรมสะสมของธนาคาร ห้องแกลเลอรี่หมุนเวียน ชั้น 3 เปิดพื้นที่ให้ศิลปินจัดแสดงนิทรรศการได้ และห้องประชุมสัมมนา ชั้น 4 เพื่อเอื้อประโยชน์ในการเรียนรู้ ศิลปวัฒนธรรมแก่สังคมอย่างแท้จริง
การที่หอศิลป์กรุงไทยซึ่งตั้งอยู่ที่เยาวราช ซึ่งมีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจํานวนมาก ธนาคารจึงสนับสนุนให้มีกิจกรรมเผยแพร่ความรู้เรื่องวัฒนธรรมประเพณีจีนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง การสัมมนาเสวนา การจัดนิทรรศการ และจัดกิจกรรมทัวร์เดินเท้านําชมวัฒนธรรมย่านเยาวราช โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมจีน และวิทยากรท้องถิ่น เพื่อให้ชุมชนได้มีความรู้สึกภูมิใจ ในวัฒนธรรมของตน อีกทั้งเพื่อให้หอศิลป์กรุงไทย ได้เป็นส่วนช่วยอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นของชุมชนที่ตั้งอย่างยั่งยืน
หอศิลป์กรุงไทย ตั้งอยู่ที่ ปากซอยเยาวราช 23 อาคารธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช เลขที่ 260 ถ.เยาวราช แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. 10100 เปิดทําการ วันจันทร์-ศุกร์ 09.00-17.00 น. วันเสาร์ 10.00-17.00 น. ปิด วันอาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์ และวันหยุดธนาคาร โทร. 0-2222-0137 โทรสาร 0-2222-0138 Email: krungthai.art1@gmail.com
หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา
หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ตั้งอยู่พื้นที่ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพมหานคร (ติดกับสวนสันติชัยปราการ)จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนของศิลปินที่มีชื่อเสียง และศิลปินรุ่นใหม่ รวมไปถึงนิทรรศการถาวร “สานพลังศิลปะ…สู่ความยั่งยืน” ที่รวบรวมผลงานที่เคยได้รับรางวัลในการประกวด ศิลปกรรม ปตท. ตลอดช่วงเวลาทั้ง 34 ปี คัดเลือกมาเวียนแสดงให้นักศิลปะ นักท่องเที่ยว และบุคคลทั่วไปได้มารับชม
วิธีการเดินทางมาบ้านเจ้าพระยา ที่อยู่ : 49/1 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เดินทางโดยรถประจำทาง : สาย 3, 6, 9, 30, 32, 33, 53, 64, 524 เดินทางโดยเรือด่วนเจ้าพระยา : ขึ้น-ลงที่ท่าพระอาทิตย์ โทรศัพท์ 098 258 5678 เปิดทุกวัน 10:00 – 18:00 น. ปิดเฉพาะวันอังคาร
Number1Gallery Contemporary Art from Thailand.
Number 1 Gallery ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 ตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่ภายในทั้งหมด 600 ตารางเมตรในพื้นที่ล้อมรอบด้วยงานศิลปะ ละแวกเดียวกันกับ Silom Galleria Building
เนื่องด้วยลักษณะอันโดดเด่นของแกลอรี่ที่ใช้เลขหนึ่งในภาษาไทย (Number 1 – ๑ -) เป็นโลโก้ เป็นเพราะเจ้าของอยากจะนำเสนอความเป็นไทยให้ไปสู่สายตานานาชาติ มากไปกว่านั้น Number 1 Gallery ยังคงส่งเสริมผลงานศิลปะของศิลปินหน้าใหม่อีกด้วย
19 ซอยสีลม 21 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดให้บริการ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-19.00 น.Tel: 02 630 2523
H Gallery Bangkok
H GALLERY BANGKOK 201 Sathorn Soi 12 Bangkok 10500 โทรศัพท์ +66 (0) 85 021 5508 เปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00 – 18:00 น. ยกเว้นวันอังคาร วิธีการเดินทาง อยู่ระหว่างถนนสาทร และถนนสีลม (ซอยสาทร 12 หรือ ซอยสีลม 9) รถไฟฟ้าบีทีเอส อยู่ระหว่างสถานีช่องนนทรี กับสุรศักดิ์ อีเมลติดต่อ hgallerythailand@gmail.com
ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก |River Museum Bangkok
ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก พื้นที่ศิลปะและพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย โดยได้เปิดเฟสแรก ‘ไอคอนสยาม อาร์ท สเปซ’ เมื่อเดือนกันยายนศกนี้ พื้นที่ 2,000 ตร.ม.ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยทุกแขนงตั้งแต่ศิลปินรุ่นใหม่ ศิลปินท้องถิ่น ไปจนถึงศิลปินระดับชาติใช้แสดงผลงาน โดยงานแรก กลุ่มบริษัทโตชิบา ประเทศไทย ได้จัดนิทรรศการศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” งานแสดงผลงานจากประกวดศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ของศิลปินทั่วประเทศ
ภายใน 1 เดือนถึงวันนี้มีผู้ชมงานมากถึง 100,000 คน หลังจากนี้จะเปิดเฟสสองคือ ‘ริเวอร์ มิวเซียม ฮอลล์’ จะเป็นพื้นที่สำหรับการจัดแสดงงานสำคัญจากทั่วโลก และการร่วมมือกับแบรนด์ดังระดับโลก และส่วนสุดท้ายคือ ‘ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก’ ซึ่งจะเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทยจะเปิดให้บริการปลายปี 2563 ทั้งหมดนี้จะทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นจุดศูนย์กลางวงการศิลปะโลกอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 – 22:00 น. ที่ไอคอนสยาม ชั้นที่ 8
The Jam Factory
The Jam Factory แหล่งรวมไอเดียที่ถูกคิดและคัดสรรมาแล้ว เราเติบโตมาพร้อมกับชุมชนคลองสาน และในโครงการมีทั้ง แกลลอรี่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านค้า และออฟฟิศ บรรยากาศร่มรื่น มีสนามหญ้าสีเขียวให้วิ่งเล่น หรืออยากชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก็เดินไปสุดทางได้เลย
The Jam Factory: The Idea. The Place. The Community. ถนน เจริญนคร โทรศัพท์ 02 861 0950 อีเมลติดต่อ contact.thejamfactory@gmail.com เปิดทุกวัน 11.00 – 20.00 น.
บ้านอาจารย์ฝรั่ง (ศิลป์ พีระศรี)
บ้านอาจารย์ฝรั่งเริ่มต้นโดยทางกรมศิลปากรได้เช่าบ้านหลังนี้เอาไว้ เพื่อให้อาจารย์ศิลป์และครอบครัวได้พักอาศัย และท่านได้พำนักอยู่ที่นี่เป็นเวลาถึง 8 ปีด้วยกัน ก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านที่สีลม ภายในพื้นที่ประกอบด้วยบ้านหลังใหญ่ 1 หลัง และบ้านหลังรองลงมาอีก 3 หลัง ปัจจุบันเป็นกรรมสิทธ์ของทางกองทัพบก ส่วนทางกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา และได้มีการปรับปรุ่งซ่อมแซมตามลำดับ โดยมีก่ีจัดแสดงภาพถ่ายครอบครัวและผลงานของอาจารย์ศิลป์ บริเวณชั้นบนและชั้นล่างในส่วนของรูปทรงทางสถาปัตยกรรม ไปจนถึงลวดลายประดับไม่ว่าจะเป็นปูนปั้นหรือไม้แกะสลัก ให้ความรู้สึกร่มรื่น งดงาม แม้ว่าจะยังไม่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ แต่ก็เปิดให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมได้
การเดินทางมา Craftsman x บ้านอาจารย์ฝรั่งร้านอยู่ในสำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก**หากมาจากฝั่งบางพลัด ข้ามสะพานซังฮี้แล้วตรงขึ้นมาเข้าประตูสำนักงานตรวจสอบภายในทหารบกได้เลย**โดยสารทางเรือ ลงท่าเรือซังฮี้ เดินต่อ 300 เมตร**BTS ลงสถานีอนุสาวรียชัยสมรภูมิ ต่อแท๊กซี่**รถส่วนตัว มีที่จอดรถบริการโทร. 065 234 0044Open daily 7.00-20.00 hrs.
art to art gallery
อาร์ตแกลลอรี่ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของ OP Place Shopping Plaza อาคาร 3 ชั้นสไตล์นีโอคลาสสิกสีขาวที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้า โดยอาคารนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1908 ต่อมาก็ถูกดัดแปลงเป็นแหล่งช็อปปิ้งตั้งอยู่ระหว่างโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล และสถานทูตฝรั่งเศสนั่นเอง
ต่อมา Art To Art gallery ถูกสร้างในปี 2005 โดย Valie De Roualle ชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยผู้หลงใหลในศิลปะ ด้วยความบังเอิญสู่ความตั้งใจเนื่องจาก Valie De Roualle ได้พบเจอกับ Valérie Goutard ชาวฝรั่งเศสเหมือนกันที่ได้ถูกทาบทามให้มาสร้างบ้านที่กรุงเทพฯ ให้กับเธอ
RIVER CITY BANGKOK
ในระหว่างเดินทางไปยุโรปช่วงปีพ.ศ. 2523 ตลาดของเก่าในกรุงปารีสสร้างความสนใจให้กับคุณอดิศร จรณะจิตต์ ซีอีโอ แห่งกลุ่มบริษัทอิตัลไทย ทำให้คุณอดิศรจินตนาการถึงการก่อตั้งศูนย์วัตถุโบราณบนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และในที่สุดก็ได้เปิดดำเนินการในปีพ.ศ. 2528 ที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ศูนย์ศิลปะและวัตถุโบราณที่ประกอบไปด้วยร้านค้าของล้ำค่าแห่งเอเชียจำนวน 4 ชั้น ที่ดึงดูดนักสะสม ผู้ค้าและผู้ชื่นชอบวัตถุโบราณจากทั่วโลก
RCB Auctions
RCB Auctions ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร (พระอิศริยยศในเวลานั้น) เสด็จมาเป็นประธานเปิดอ็อคชั่นเฮ้าส์แห่งนี้ นับตั้งแต่นั้นมา RCB Auctions ได้จัดการประมูลในวันเสาร์แรกของทุกๆ สองเดือนเพื่อรำลึกถึงวาระดังกล่าว ชิ้นงานที่นำมาประมูลแต่ละครั้งได้รับการรับรองจากสมาคมเผยแพร่และส่งเสริมศิลปวัตถุ จากความสำเร็จของการจัดงานประมูลทุกๆ สองเดือนและ Grand Auction หรือการประมูลครั้งใหญ่ได้นำรายได้ไปมอบเพื่อการกุศลซึ่งช่วยสนับสนุนภูมิภาคและชุมชนให้เติบโตขึ้น
การจัดประมูลครั้งใหญ่หรือ Grand Auction จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวาระครบรอบหนึ่งปีของ RCB Auctions ในปีพ.ศ. 2529 โดยรายได้จากการประมูลจำนวนหนึ่งล้านบาทได้มอบให้กับ The Royal Park Project Foundation ต่อมาในปีพ.ศ. 2530 รายได้ที่ได้รับจากการประมูลได้นำไปใช้ก่อสร้างห้องสมุดในจังหวัดนครศรีธรรมราชเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นในปีพ.ศ. 2531 งานประมูลอัญมณีและเครื่องประดับได้จัดขึ้นเพื่อหารายได้แด่โครงการต่างๆ ในพระบรมราชานุเคราะห์
ต่อมาในปีพ.ศ. 2561 มีชิ้นงานประมูลที่เป็นงานศิลปะมากถึง 400 ชิ้นและโบราณวัตถุมากถึง 90,000 ชิ้นนับตั้งแต่ก่อตั้ง งานต่างๆ ได้จัดขึ้นเพื่อทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเพื่อให้ทุกท่านได้เรียนรู้และซาบซึ้งถึงมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศไทยและประต่างประเทศ เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนศิลปะในระดับสากลและยังคงสานต่อไปด้วยความมุ่งมั่น
RCB Forum
ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ภาคภูมิใจในสิ่งเราสืบทอดมากว่าสามทศวรรษและกำลังเดินหน้าไปสู่จุดมุ่งหมายในด้านส่งเสริมการศึกษาและความบันเทิงเพื่อมอบให้กับผู้มาเยือนทุกเพศวัย บริเวณชั้น 2 ของเราซึ่งเป็น Contemporary Art Space มี RCB Forum ห้องเอนกประสงค์พร้อมอุปกรณ์ครบครันเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสัมมนาเพื่อพบปะและพูดคุยกับศิลปินและผู้เชี่ยวชาญทั้งคนไทยและต่างชาติ อีกทั้งมีการฉายภาพยนตร์ทุกเดือน รวมถึงการแสดงดนตรีและอื่นๆ อีกมากมาย ที่นี่จึงเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่พร้อมเนรมิตทุกกิจกรรมและความคิดสร้างสรรค์ให้เป็นจริงขึ้นมาได้
RCB Photographers’ Gallery
ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายอะนาล็อกหรือดิจิทัล RCB Photographers’ Gallery ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน Creative District อันน่าตื่นเต้นในกรุงเทพคือสถานที่ที่จะได้พบกับบรรดาช่างภาพและเหล่าคนรักศิลปะการถ่ายภาพ แกลเลอรีภาพถ่ายนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เพื่อจัดแสดงผลงานของช่างภาพทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงช่างภาพมือสมัครเล่นในด้านงานภาพถ่ายเชิงวิจิตรศิลป์และการค้า
การก่อตั้งแกลเลอรีสำหรับแสดงงานภาพถ่ายโดยเฉพาะเป็นเจตนารมณ์ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ที่จะนำเสนอผลงานอันดีเยี่ยมที่สุดจากฝีมือของช่างภาพไทยและทั่วโลก แม้จะเป็นในระยะเวลาอันสั้น RCB Photographers’ Gallery และ RCB Forum เป็นสถานที่สำหรับเทศกาลของ PHOTO BANGKOK โดยช่างภาพระดับอินเตอร์อย่าง Patrick Brown, Antonio Saba, Massimo Listre, Yvan Cohen และ Norm Yip แต่ละท่านได้มาจัดนิทรรศการเดี่ยวที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก แห่งนี้ นอกจากนี้เรายังได้ร่วมงานกับภัณฑารักษ์อย่างผ้าป่าน-สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ เพื่อจัดแสดงนิทรรศการกลุ่มสำหรับนำเสนอผลงานของเหล่าช่างภาพมากฝีมือในประเทศไทย
ในด้านของดีไซน์ แกลเลอรีนี้สามารถปรับเปลี่ยนให้รับกับการจัดนิทรรศการทั้งขนาดใหญ่และเล็ก มีระบบแสงที่ช่วยให้การจัดแสดงภาพระดับมืออาชีพ มีบอร์ดขนาดใหญ่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อทำให้แกลเลอรีเหมาะสำหรับจัดนิทรรศการ สัมมนา และงานเลี้ยงต้อนรับ
RCB Galleria
ณ ชั้น 2 ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ได้รับการเนรมิตให้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะทุกแขนง ทั้งงานจิตรกรรมไปจนถึงประติมากรรม ดิจิทัลอาร์ต การแสดงสด ภาพยนตร์ และภาพถ่าย RCB Galleria จึงเป็นจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดสำหรับเหล่าคนรักศิลปะและผู้ที่ดื่มด่ำไปกับไลฟ์สไตล์ในเมืองนิทรรศการมัลติมีเดียที่ผ่านมาอย่าง ‘From Monet to Kandinsky’ กลายเป็น talk of the town ที่ดึงดูดผู้สนใจศิลปะนับหมื่นคน
ส่วนนิทรรศการ ‘ATTA’ ที่จัดเป็นครั้งแรกเพื่อนำเสนอผลงานของสี่ศิลปินไทยร่วมสมัยผู้เป็นที่เคารพมากที่สุดรวมไว้ในนิทรรศการเดียว ในขณะที่นิทรรศการ Art for Everyone เป็นนิทรรศการเพื่อการกุศลที่จัดขึ้นทุกปีและได้รวบรวมเหล่าศิลปินมือสมัครเล่นที่มาร่วมกันทำประโยชน์ในด้านดีทีมสร้างสรรค์นิทรรศการและอีเว้นท์ต่างๆ ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ได้ร่วมงานกับภัณฑารักษ์และศิลปินทั่วเอเชีย และทั่วโลกเพื่อจัดนิทรรศการที่จำหน่ายบัตรเข้าชม รวมถึงการแสดงงานเพื่อการค้า กาฉายภาพยนตร์ สัมมนา และงานต่างๆ อันเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไป RCB Galleria แห่งนี้เป็นอาร์ตสเปซที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของภัณฑารักษ์ เมื่อรวมกันแล้ว พื้นที่ของ RCB Galleria 1 และ RCBGalleria 2 มีพื้นที่รวมกันกว่า 1,200 ตารางเมตร เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการแบบเปิดให้เข้าชม มีระบบควบคุมอุณหภูมิและแสงที่ปรับเปลี่ยนได้
RCB Helipad
บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้รับส่งนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่แห่งนี้เป็นจุดสำคัญสำหรับจัดอีเว้นต์อันน่าตื่นตาตื่นใจ บนรู้ฟท็อปของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก คุณจะได้ชมทัศนียภาพที่งดงามที่สุด
ลานเฮลิแพดจึงเป็นสถานที่สุดพิเศษสำหรับจัดฉายหนัง คอนเสิร์ต การแสดง และงานแฟร์ต่างๆ สำหรับเปิดตัวสินค้าที่พิเศษ โดยสามารถขึ้นมาได้จากจุดจอดรถ จึงเหมาะสำหรับขับรถขึ้นมาเพื่อจัดมาร์เก็ตขายของ และเหล่านักปาร์ตี้และนักท่องราตรีได้มาเพลิดเพลินกับท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตก จิบคราฟต์เบียร์ และมองเรือดินเนอร์ล่องไปตามแม่น้ำ หรือถ่ายภาพดอกไม้ไฟอันตระการตาในช่วงปีใหม่ ลานเฮลิแพดนี้จึงเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่เปิดรับทุกความคิดสร้างสรรค์
Gustav KlimtJudith I, 1901Öl auf Leinwand84 x 42 cm
จะเห็นว่า วันจันทร์ นั้นมีหลายๆ สถานที่ไม่ว่าจะเป็น วัง พิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ หอศิลป์ และอื่นๆ ที่พร้อมใจกันเปิดให้เราได้ไปเสพ ใครไปที่ไหนอะไรยังไง ถ่ายรูปแล้วลง ก็ tag Zipevent มาได้นะคะ เรารอดูอยู่ สำหรับบทความต่อไปจะว่าด้วยเรื่องอะไร รอติดตามเลยน้า
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @ZipeventInstagram: @ZipeventWebsite: www.zipeventapp.com Twitter: @Zipevent Facebook: @Zipevent