การจัดอีเว้นท์ขึ้นมา ไม่ว่าจะสเกลเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ และได้สัมผัสกับแบรนด์ของเราโดยตรง และเกิดการบอกต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความสำเร็จของอีเว้นท์จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่มีคนไปร่วมงาน ดังนั้นการโปรโมทงาน Event ให้ปัง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อได้มีการโปรโมทงานออกไปแล้ว ก็สามารถทำให้คนตัดสินใจมาร่วมงานได้มากขึ้นจริงๆ
การทำ Content จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น บทความ ข้อความสั้นๆ รูปภาพ หรือแม้กระทั่งวิดิโอ ก็ล้วนเข้าถึงคนได้ทั้งนั้น แต่ก็ต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีรูปลักษณ์ หรือเนื้อหาที่น่าสนใจ ลักษณะเนื้อหาเหมาะสมกับช่องทางการนำเสนอ และต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ผู้จัดงานคาดหวังไว้ด้วย ไม่งั้นการลงทุนโปรโมทงานครั้งนี้นอกจากจะไม่ปังเเล้ว ยังพังอีกด้วย มาดูกันว่า จะมีการโปรโมทงานผ่านช่องทางไหนบ้างที่ดี มีคนเห็นเยอะ และตัดสินใจมาร่วมงานกับเราแบบไม่ต้องลังเล
ปฏิเสธไม่ได้ถึงความแรงแซงทางโค้งสำหรับโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และยังเป็นช่องทางที่รวมกลุ่มเป้าหมายไว้ได้มากที่สุด เรียกได้ว่าเกือบครบทุกเจเนอเรชั่น หากเราจะโปรโมทงานผ่านช่องทางนี้ จะสามารถเลือกกลุ่มคนที่มีพฤติกรรม หรือความสนใจตามที่วางแผนไว้ได้อีกด้วย แต่อย่างไร การจัดฟอร์แมตงานสวยๆ ข้อความโดนๆ จะยิ่งสามารถดึงความสนใจจากคนได้ แม้ว่าคนนั้นจะไม่ได้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราคาดหวังไว้จริงๆ ซึ่งช่องทางนี้เหมาะกับงาน Event ทุกรูปแบบ เพียงแต่ว่าเราต้องเลือกซื้อพื้นที่โฆษณากับเพจต่างๆ ให้เหมาะสมกับงานของเราเท่านั้นเอง เช่น อยากโปรโมทงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสไตล์วัยรุ่น ก็ต้องเลือกเพจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และมี content ที่ดูวัยรุ่น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเเม่นยำ เป็นต้น
ลักษณะ content : รูปภาพ (1 โพสต์ได้ 42 รูป มากกว่านี้ต้องสร้างอัลบั้ม) ,บทความ ,วิดิโอไม่จำกัดความยาว ,link post
ช่องทางนี้ใช่ว่าจะมาเล่นๆ เหมือนกันนะ หลังจาก Mark Zuckerberg ซื้อไป ก็ปรับปรุงและพัฒนาไม่หยุดไม่หย่อน มีลูกเล่นออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะ IG Story ที่ฮิตกันมากกกกก จนเรียกให้คนเข้าไปสมัครแอคเค้าท์กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่า Instagram เป็นช่องทางที่เน้นรูปภาพเป็นหลัก ดังนั้นช่องทางนี้เหมาะอย่างมากกับการขายตรง หรือปล่อย ads ผ่านทาง Facebook ซึ่งโพสต์ที่ซื้อ ads ไว้จะแสดงให้กลุ่มคนในอินสตาแกรมเห็นถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ฟอลเราก็ตาม และโพสต์ดังกล่าวก็จะไม่แสดงให้เห็นในหน้าโปรไฟล์ของเราให้เสียการคุมโทนอีกด้วย เริ่ดสุดๆ
ลักษณะ content : รูปภาพ (สูงสุด 10 ภาพต่อโพสต์) ,ข้อความสั้นๆ ,วิดิโอ 1 นาที ,link post (หากซื้อ ads ผ่าน Facebook)
140 ตัวอักษรดูเหมือนจะน้อยไปสำหรับโลกยุคนี้ เขาจึงเพิ่มตัวอักษรให้อีกถึง 280 ตัวอักษรแบบจุกๆ กันไปเลย แต่ก็ถือว่าไม่ได้เยอะเท่า Facebook หรือ Blog เพราะก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ twitter อยู่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบอ่านอะไรสั้นๆ ได้ใจความ เน้นแบบเนื้อๆ ซึ่ง twitter สามารถใช้แฮชแท็กในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย และทำให้ได้กระแสที่แรงเกินคาดมากๆ
ลักษณะ content : รูปภาพ 4 รูปต่อโพสต์ ,ข้อความสั้น 280 ตัวอักษร ,วิดิโอ 140 วินาที , link post
LINE
LINE ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่มีคนใช้เยอะมากโดยเฉพาะคนไทย ในเรื่องของการพูดคุยสื่อสาร แต่ถ้าพูดเรื่องการโปรโมทงาน line จะมีอีกช่องทางหนึ่งนอกจากหน้าแชท นั่นคือ “ทามไลน์” (Timeline) ในหน้าทามไลน์จะมีโพสต์ต่างๆ ที่เพื่อนในไลน์ของกลุ่มลูกค้าโพสต์ แต่ถ้าต้องการส่งข่าวสารผ่านทางแชทก็ย่อมได้ ก็อาจจะเจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าด้วย เพราะ เราต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าไปในหน้าทามไลน์ แต่ถ้าช่องแชท เห็นทุกคนแน่นอน ดังนั้นถ้าเราอยากจะโปรโมททางไลน์ ควรเลือกลงทุนกับ official ที่มียอด user เยอะๆ เพื่อให้มีคนรู้จัก Event เราเป็นวงกว้างมากขึ้น
ลักษณะ content : รูปภาพ ,บทความ ,วิดิโอ ,link post
EDM
EDM หรือ Email Direct Marketing คือ การทำการโปรโมทธุรกิจ หรือโปรโมทงานโดยใช้อีเมลเป็นช่องทางเพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน โดยวิธีการก็คือ ผู้จัดงานจะส่งอีเมลที่มีข้อมูลเชิญชวนมาร่วมงาน หรือข้อมูลเกี่ยวกับงานอีเว้นท์ที่จัด เข้าไปที่อีเมลของกลุ่มเป้าหมาย วิธีการส่งแบบนี้ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถส่งข้อมูลได้เป็นหมื่นๆ ข้อมูลในเวลาเดียวกัน และเราสามารถเลือกเวลาใดก็ได้ ดังนั้นจึงมีข้อดีในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นการช่วยลดระยะเวลาที่ควรนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นมากกว่า แต่คอนเทนต์ที่ส่งไปนั้น ก็ต้องมีคุณภาพ และน่าสนใจประมาณนึงเช่นกันนะ
ลักษณะ content : ข้อความ, ภาพ หรือ Html ไฟล์เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูล www.social.co.th
Push Notifications
Push notification คือการแจ้งตือน user ด้วยข้อความสั้นๆ ไม่ว่าจะผ่านทั้ง Device ทาง Mobile หรือ Desktop ซึ่งจุดประสงค์หลักนั้นมีมากมายหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การอัพเดทข่าวสาร, การแนะนำโปรโมชัน, การยืนยัน หรือ การแจ้งเตือนต่างๆ เช่น “วันนี้เเล้ว!! นัดเพื่อนแล้วออกไปตี้ที่งาน….กัน!!!” และคงไม่น้อยคนนักที่เป็นโรคเห็น Notifications ไม่ได้ มือจะต้องคลิกกดเข้าไปดูทุกครั้ง และเมื่อพวกเขาคลิก Notifications นั้นไป มันจะลิงก์พาลูกค้าให้เข้าไปใช้งานแอปและสามารถอ่านข้อมูล หรือลิงก์เข้าไปซื้อตั๋ว (หากงานนั้นมีการจำหน่ายตั๋ว) ได้นั่นเอง ซึ่งมีหลายแอปพลิเคชั่นที่สามารถโปรโมทงาน Event ได้ อย่างเช่น Zipevent หรือ Grab โดยการให้โค้ดลดราคาค่ารถ เช่น “หากมางานนี้รับโค้ด….ลดค่า Grab 50 บาทไปเลย” ก็ล้วนแล้วแต่ความสร้างสรรค์ในการคิดวิธีการหรือโปรโมชั่นกันเลยนะ
ลักษณะ content : ข้อความสั้นๆ ประมาณ 150 ตัวอักษร
Blog [SEO]
การโปรโมทงานทาง Blog ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีเว็บไซต์และเนื้อหาข้อมูลต่างๆ ก็ทำได้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงแม้เราจะเขียนโปรโมท จัดฟอร์แมตสวยหรู แต่ถ้าไม่มีคนเข้ามาดู ก็จะเสียเปล่าอย่างเเน่นอน ดังนั้น การทำ SEO คือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยล่ะ
SEO คือ การสร้างเนื้อหาในแบบที่ google ชอบ ด้วยคีย์เวิร์ดที่ต้องตรงกับสิ่งที่ผู้คนกำลังค้นหา เนื้อหาที่เราต้องการโปรโมทก็จะไปติดหน้าแรกเวลาค้นหาบน google หรือเรียกว่า Search engine สิ่งนี้จะช่วยสร้าง traffic พาผู้คนเข้ามาเว็บไซต์ของเราได้อย่างต่อเนื่อง สร้างการรับรู้ และทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ เข้ามาอ่านข้อมูลต่างๆ ที่เราอยากนำเสนอหรือโปรโมท เพียงเท่านี้ งานเราก็จะปัง!! แน่นอน
เอ้อ!! เราสามารถนำลิงก์ไปแปะในช่องทางอื่นๆ ได้อีกด้วยนะ
ลักษณะ content : ตัวอักษรมากกว่า 300 คำ โดยใส่คำคีย์เวิร์ดลงไปในย่อหน้าแรก , ใส่รูปภาพได้ ,แต่งให้สวยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
และที่สำคัญ อย่าลืมศึกษากลุ่มเป้าหมายของเราให้ดีก่อนนะ เพราะการโปรโมทไม่ว่าช่องทางไหนก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายหนักหนาสาหัสพอตัว ดังนั้นการวิเคราะห์ และการประชุมเพื่อเลือกช่องทางการโปรโมทที่ดีและคุ้มค่าที่สุด จะช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก แถมยังสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้โดน!! อีกด้วย ซึ่งรับรองเลยว่า งาน Event ของเราต้องปัง! ไม่เงียบเหงาแน่นอนจ้า : )
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @ZipeventInstagram: @ZipeventWebsite: www.zipeventapp.comTwitter: @ZipeventFacebook: @Zipevent
หรือถ้าสนใจอยากจะโปรโมทงานอีเว้นท์แบบฟรีๆ ก็ส่งข้อมูลเข้ามาได้ที่ E-Mail: Support@zipeventapp.com