เรียนต่างประเทศ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ใครที่มีความตั้งใจอยากไปเรียนต่อในอนาคตก็ควรจะเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ เพราะบางประเทศก็อาจจะต้องการเอกสารหลากหลายรูปแบบ ถ้าเรามาเร่งทำในเวลาอันสั้นก็อาจจะทำให้ตกหล่นและเกิดปัญหาได้

ไปดูกันว่า 7 เอกสารหลักๆ ที่ส่วนใหญ่หลายๆ โรงเรียนหรือมหาลัยในต่างประเทศต้องการจะมีอะไรบ้าง

เอกสารเรียนต่อ

ใบจบการศึกษา (Graduation Certificate)

เป็นใบหลักฐานรับรองการศึกษา ซึ่งสามารถขอได้ที่มหาลัยของแต่ละคนเลย แนะนำให้ขอเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะ

ทรานสคริปต์ (Transcript)

ใบแสดงผลการเรียนในทุกๆ ภาคเรียนที่มหาลัยของเพื่อน เพื่อเป็นเอกสารสำหรับประวัติการเรียนในช่วงมหาลัยของเรา

จดหมายรับรอง (Letter of Recommendation)

เพื่อนๆ จะต้องขอหนังสือรับรองจากอาจารย์ที่มหาลัยจำนวนอย่างน้อย 2 ฉบับ หรือถ้าใครทำงานแล้วก็สามารถขอจดหมายรับรองจากที่ทำงานได้เช่นกัน อย่าลืมว่าอาจารย์มีภารกิจอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เราก็ควรจะขอจดหมายล่วงหน้าเร็วๆ จะได้เผื่อเวลาให้อาจารย์นั่นเอง

เรียนต่างประเทศ

Resume / Portfolio

สิ่งที่ควรทำเผื่อไว้ก็คือ Resume หรือประวัติการเรียน การทำงาน และสิ่งที่เพื่อนๆ สนใจคร่าวๆ เพื่อที่ทางมหาลัยจะได้รู้จักกับเราเพิ่มเติม เป็นข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจนั่นเอง ส่วน Portfolio ก็อาจจะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่สนใจเรียนต่อในด้านอาร์ต ก็อาจจะต้องมี Portfolio แสดงผลงานเพิ่มเติม

Passport (หนังสือเดินทาง)

สำเนาพาสปอร์ตหรือสำเนาหนังสือเดินทางนั้นจำเป็นที่สุด ขอให้ถ่ายเอกสารเก็บตุนไว้ก่อนเลย เพราะคอนเฟิร์มว่าต้องได้ใช้แน่นอน แต่อย่าลืมเช็กวันหมดอายุพาสปอร์ตให้ดีก่อนนะ เผื่อต้องไปต่อเล่มใหม่ จะได้ทำทันนะคะ

Statement of Purpose (SOP)

สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมนอกจากเอกสารรับรองจากมหาลัยและอาจารย์ ก็คือการเขียน Statement of Purpose (SOP) คล้ายๆ กับเรียงความเพื่อบอกว่าทำไมถึงอยากเข้าเรียนในหลักสูตรนี้หรือคอร์สนี้มีความสำคัญอย่างไรกับตัวเรา พร้อมบอกถึงสิ่งที่คาดหวังจากการที่จะได้เรียนหลักสูตรนั้นๆ ด้วย (ความยาวประมาณไม่เกิน 2 หน้า A4)

เอกสาร คะแนนภาษาอังกฤษ (IELTS หรือ TOEFL)

แน่นอนว่าทางมหาลัยที่เราต้องการจะไปเรียนจะต้องอยากวัดระดับภาษาอังกฤษเบื้องต้นของเราก่อน ซึ่งคะแนน IELTS และ TOEFL ก็เป็นมาตรฐานที่วัดได้โดยง่าย ใครที่ยังไม่เคยสอบก็ลองศึกษาแนวข้อสอบให้ดีน้า แต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีเกณฑ์การวัดระดับต่างกันไป แต่ไม่ต้องกังวลนะ ถ้าสอบแล้วผลคะแนนออกมาไม่ถึงเกณฑ์ เราสามารถสอบได้เรื่อยๆ จนกว่าคะแนนจะถึง แต่ถ้าไม่ถึงจริงๆ ก็ไม่เป็นไร ทางมหาลัยส่วนใหญ่จะมี หลักสูตรที่เรียกว่า Pre-sessional course ให้ได้ปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษก่อนเปิดภาคเรียนกันก่อน

เรียนต่างประเทศ

เพราะฉะนั้นเรามีงานอีเว้นท์น่าสนใจมาบอกต่อ ซึ่งงานนี้จะจัดในรูปแบบ Virtual Event อยู่บ้านก็สามารถคลิกเข้าร่วมได้เลย สะดวกมากๆ


TIECA Study Abroad Virtual Fair 36th

สมาคมไทยแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ (TIECA) ขอเชิญชวนน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง ที่สนใจในการศึกษาต่อต่างประเทศ เข้าร่วมงาน TIECA Study Abroad Virtual Fair 36th  ฟรี ในวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 – 18.00 น.โดยเป็นงานนิทรรศการ จำลองสภาพแวดล้อมของการจัดงานแบบเสมือนจริงในรูปแบบออนไลน์

การจัดงานครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาชั้นนำเข้าร่วมงานกว่า 80 สถาบัน จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกคือ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา จากทุกระดับการศึกษาเรียนไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ, เรียนต่อระดับมัธยมศึกษา, ระดับมหาวิทยาลัย หลักสูตร Certificate หรือ Diploma ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน จะได้รับข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับระบบการศึกษาทุกระดับในสถาบันที่ตนเองสนใจ และมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันต่างๆ โดยตรง ผ่านการ Chat หรือ VDO Call นอกจากนั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญจากเอเจนซี่ที่เป็นสมาชิกของ TIECA คอยให้ข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยตอบคำถามเป็นภาษาไทยให้กับน้องๆ และผู้ปกครองที่สนใจอีกด้วย

เรียนต่างประเทศ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ได้ที่นี่ https://www.zipeventapp.com/e/TIECA-Study-Abroad-Virtual-Fair-36th

กิจกรรมภายในงาน

  • พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันต่างๆ ในต่างประเทศกว่า 80 สถาบัน ผ่านระบบออนไลน์ ขอข้อมูลการศึกษาต่อ การเตรียมตัวและเอกสารในการสมัครเรียน และทุนการศึกษา
  • เรียนรู้และได้ประสบการณ์ในการใช้ Virtual Platform Program ที่ทันสมัย

และนี่ก็เป็น 7 เอกสารสำหรับใครที่ต้องการอยากไปเรียนต่อเมืองนอก หรือ เรียนต่างประเทศ ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละประเทศและมหาลัยก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป อย่าลืมศึกษาและตรวจสอบให้ดีก่อนนะทุกคน

Comments

comments

Author

You only live once