เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยรู้สึกถูกชะตาหรือถูกใจกับแบรนด์บางแบรนด์ที่มักมีโลโก้เป็นตัวคาแรคเตอร์การ์ตูนคิ้วท์ๆ หรือสัตว์ต่างๆ ที่มีความน่ารักพุ่งออกมากระแทกตา จนอยากได้ อยากจับจองเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านั้นกันใช่มั้ยล่ะ…แล้วรู้หรือไม่ว่าสิ่งนั้นมันถูกจำกัดความในเชิงมาร์เก็ตติ้งเอาไว้โดยเรียกว่า Cute Marketing การตลาดในเชิงรูปแบบที่แอบแฝงความน่ารักเอาไว้เพื่อพิชิตใจผู้บริโภค ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับมาร์เก็ตติ้งในหัวข้อนี้กัน
ถ้าหากเราอยากเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบความน่ารัก สดใส เฟรนด์ลี่ การทำมาร์เก็ตติ้งแบบนี้ก็ถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะหลายๆ คนมักจะแพ้ความน่ารักจนต้องอยากมีมาครอบครอง
อะไรคือ Cute Marketing?
เอาตรงๆ การตลาดในประเภทนี้นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายให้มากความ เพราะว่าชื่อของการตลาดในประเภทนี้ค่อนข้างที่จะตรงตัวอยู่แล้ว เน้นไปที่ความน่ารักเพื่อมัดใจผู้บริโภคกล่าวคือการตลาดแบบนี้ เป็นหนึ่งในการตลาดในรูปแบบเชิงน่ารัก ที่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ หรือบริษัท องค์กรต่างๆ ที่ใช้ลักษณะการดีไซน์รูปแบบแบรนด์ให้ออกมาดูน่ารัก ยกตัวอย่างเช่น Mini Coolper รถยนต์ขนาดเล็กที่ดีไซน์ให้ออกมาดูเป็นขนาดจิ๋ว ที่ดูกี่ทีก็น่ารัก
ความน่ารักเป็นคุณสมบัติที่เข้าถึงใจผู้บริโภคได้อย่างเสมอมา
Digital Tips Academy
ซึ่งความน่ารักในที่นี้เป็นอะไรได้บ้าง…ต้องบอกก่อนเลยว่าคำว่าน่ารักนั้นไม่สามารถจำกัดความได้อย่างชัดเจน ความน่ารักอาจจะอยู่ที่สีในการเลือกใช้ให้เข้ากับ product เองก็ดี หรือการหยิบเอาตัวการ์ตูนพวกสัตว์มาดัดแปลงเพื่อส่งเสริมกันเข้าไปอีก เช่น สุนัข หรือว่าแมว หรืออาจจะน่ารักเพราะขนาดที่กำลังพอดีก็สามารถเป็นไปได้ โดยตรงนี้ก็ถือว่าเป็นโจทย์สำคัญของผู้ผลิตที่จะผลิตคำว่า ‘ความน่ารัก’ ออกมายังไงให้โดนใจผู้บริโภคนั่นเอง
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าเวลาเราเห็นอะไรที่น่ารัก โดยเฉพาะสัตว์ต่างๆ สัญชาตญาณในการปกป้องดูแลลูกน้อยของเราจะทำงาน ซึ่งนั่นจะทำให้สมองหลั่งสาร dopamine ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นเวลาเรามีความสุข จึงรู้สึกอยากเข้าไปดูแล ปกป้อง และครอบครองสิ่งๆ นั้นซึ่งแน่นอนว่ามันสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับการตลาดได้ด้วย ที่เรียกได้ว่าเห็นแล้วมันน่ารัก ถูกใจจนอยากจะได้ในแนวแบบของมันต้องมีอะไรทำนองนี้
แล้วจะสามารถสร้างความน่ารักยังไงให้เข้ากับแบรนด์ของเราได้บ้าง
เพราะความน่ารักนั้นไม่เข้าใครออกใคร ดังนั้นจริงๆ แล้วความน่ารักนั้นมันสามารถที่จะเป็นอะไรก็ได้ แบบไม่ตายตัว เหมือนกับที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นว่าน่ารักอาจจะหมายถึงสี หมายถึงขนาด หมายถึงสัตว์ หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราก็เป็นได้ แต่เราจะสามารถหยิบความน่ารักตรงนั้นเข้ามาใช้ในเชิงการตลาดได้อย่างไรบ้าง ลองไปดูกัน
Adapt ความน่ารักด้วยการดีไซน์
สร้างความน่ารักให้เข้ากับแบรนด์ด้วยการ Adapt ให้เข้ากับตัวผลิตภัณฑ์ของเราได้เลย โดยอาจจะหยิบจับการดีไซน์เข้ามาช่วย เช่น การเลือกใช้สีหวานๆ หรือสร้าง element ให้ตัวแบรนด์โดดเด่นเผื่อเป็น Identity ก็สามารถทำได้
ลองนึกถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบความน่ารัก ถ้าผลิตภัณฑ์ของเราสามารถ represent ให้ตัวพวกเค้าโดดเด่นและมีสไตล์มากขึ้น เช่น การซื้อของต่างๆ มาแต่งห้อง หรือประดับเป็น accessory ถ้าสินค้าของเราถูกใจกลุ่มลูกค้าเหล่านั้น เพราะว่ามีดีไซน์ที่ช่วยเสริมให้ห้องพวกเค้าน่ารักขึ้นมาได้ วิธีนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจเลยทีเดียว
สร้าง Character ให้กับแบรนด์เพื่อสื่อออกไปในเชิงที่เป็นมิตร
เสริมคาแรคเตอร์ให้กับแบรนด์ให้ดูมีความเป็นมิตรกับผู้บริโภคมากขึ้น โดยอาจจะเป็นสร้างคาแรคเตอร์จากผู้ส่งสู่ผู้รับแบบเป็น niceให้มากขึ้น ใส่ความใส่ใจเข้าไปให้กับผู้บริโภคเพื่อสร้างประสิทธิภาพให้กับแบรนด์ของตัวเองอย่างเป็นมิตร ไม่จำเป็นจะต้องดัดแปลงให้สินค้าออกมาในรูปแบบน่ารัก แต่เน้นไปทางการสื่อสารเสียมากกว่า อาจจะเป็นวิธีการใช้คำ กราฟิกในการทำ artwork หรือ influencer ที่จะช่วยเสริมให้แบรนด์น่ารักและน่าเอ็นดูมากขึ้นนั่นเอง เท่านี้ก็ถือว่าเป็นการตลาดรูปแบบเชิงน่ารักได้แล้ว
จากที่กล่าวไปทั้งหมดจะเห็นได้ว่าสิ่งต่างๆ ก็สามารถทำออกมาให้ดูน่ารักขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะความน่ารักถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามผู้ผลิตต่างๆ ก็ลองนำการตลาดในเชิงนี้ไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับแบรนด์เพื่อสร้างความคิ้วท์ ให้ถูกใจผู้บริโภคดูน้าา 🙂
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย
- Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
- Instagram: @Zipevent
- Website: www.zipeventapp.com
- Twitter: @Zipevent
- Facebook: @Zipevent
ขอบคุณข้อมูลจาก Digital Tips Academy