สันนิษฐานกันว่า สงกรานต์ ได้รับอิทธิพลมาจากเทศกาลโฮลี หรือเทศกาลสาดสีในอินเดีย แต่ด้วยความร้อนของโซนตะวันออกเฉียงใต้ และความที่มีแม่น้ำอันอุดมสมบูรณ์ จึงแปลงมาเป็นสาดน้ำแทน และยิ่งประเทศไทยในอดีตเคยตั้งให้ สงกรานต์ เป็น วันขึ้นปีใหม่ของไทย ด้วย เนื่องจากสงกรานต์เป็นคำสันสกฤต หมายถึง “การเคลื่อนย้าย” ซึ่งเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายของการประทับในจักรราศี คือการเคลื่อนขึ้นปีใหม่ในความเชื่อของไทย นั่นเอง
ก่อนที่จะไปเล่าว่า สงกรานต์ในสมัยก่อนนั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง ในฐานะเพจบันเทิงอีเว้นท์อันดับหนึ่งของประเทศไทย ขอหยิบยกเพลง “รำวงวันสงกรานต์” ของสุนทราภรณ์ ที่ได้เล่าเทศกาลสงกรานต์ของไทยในโบราณได้จบ ครบถ้วน สมบูรณ์
การทำบุญตักบาตร
ถือว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้ตัวเอง และอุทิศส่วนกุศลนั้นแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว การทำบุญแบบนี้มักจะเตรียมไว้ล่วงหน้า นำอาหารไปตักบาตรถวายพระภิกษุที่ศาลาวัด ซึ่งจัดเป็นที่รวมสำหรับทำบุญ ในวันนี้หลังจากที่ได้ทำบุญเสร็จแล้ว ก็จะมีการก่อพระทรายอันเป็นประเพณีด้วย ซึ่งในท่อนหนึ่งของเพลงรำวงวันสงกรานต์ก็ปรากฏคือ “วันนี้เป็นวันสงกรานต์ หนุ่มสาวชาวบ้าน เบิกบานจิตใจจริงเอย ตอนเช้าทำบุญ ทำบุญตักบาตร ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขันกันเอย”
การรดน้ำ หรือการรดน้ำผู้ใหญ่
เป็นการอวยพรปีใหม่ให้กันและกัน น้ำที่รดมักใช้น้ำหอมเจือด้วยน้ำธรรมดา เป็นการอวยพรแก่ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ครูบาอาจารย์ ท่านผู้ใหญ่มักจะนั่งลงแล้วผู้ที่รดก็จะเอาน้ำหอมเจือกับน้ำรดที่มือท่าน ท่านจะให้ศีลให้พรผู้ที่ไปรด ถ้าเป็นพระก็จะนำผ้าสบงไปถวายให้ท่านผลัดเปลี่ยนด้วย หากเป็นฆราวาสก็จะหาผ้าถุง ผ้าขาวม้าไปให้
การดำหัว
มีจุดประสงค์คล้ายกับการรดน้ำทางภาคกลาง พบเห็นได้ทางภาคเหนือ การดำหัวทำเพื่อแสดงความเคารพนับถือต่อพระ, ผู้สูงอายุ คือการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินไปแล้ว หรือ การขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ของที่ใช้ในการดำหัวส่วนมากมีอาภรณ์ มะพร้าว กล้วย ส้มป่อยเทียน และดอกไม้
การสรงน้ำพระ
การสรงน้ำพระ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด และบางที่จัด สรงน้ำพระสงฆ์ ด้วย ซึ่งก็ต้องมีการแต่งตัว แน่นอนว่าก็ถูกปรากฏอยู่ในเนื้อเพลงเหมือนกัน คือ “เข้าวัดแต่งตัว แต่งตัวสวยสะ ไปสรงน้ำพระ ณ วันสงกรานต์เอย
บังสุกุลอัฐิ
เป็นการนำกระดูกญาติผู้ใหญ่ที่ตายแล้ว มักก่อเป็นเจดีย์ แล้วนิมนต์พระไปบังสุกุล
การนำทรายเข้าวัด และการก่อเจดีย์ทราย
การนำทรายเข้าวัด เกิดขึ้นทางภาคเหนือนิยมขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นนิมิตโชคลาภ ให้มีความสุขความเจริญ เงินทองไหลมาเทมาดุจทรายที่ขนเข้าวัด แต่ก็มีบางที่ เชื่อว่าตลอดปี การนำทรายที่ติดเท้าออกวัด เป็นบาป จึงขนทรายเข้าวัดเพื่อไม่ให้เป็นบาป และการก่อเจดีย์ทรายเป็นการนำทรายมาก่อเป็นรูปร่างคล้ายเจดีย์ และประดับด้วยดอกไม้ต่างๆ
กิจกรรมอื่นๆ ใน วันขึ้นปีใหม่ของไทย
ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยนกปล่อยปลา เล่นมอญซ่อนผ้า การละเล่นต่างๆ นานา ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ในหัวข้ออีเว้นท์ในอดีต ของเราชาวเยาวรุ่นบ้าง ก็จะมีแจกแจงไว้ว่า มีอะไรที่คนสมัยก่อนเขาเล่นกันบ้าง รวมถึงกิจกรรมรำวง สวดมนต์ข้ามปี ก็เกิดขึ้นในวันสงกรานต์
จะเห็นได้ว่า สงกรานต์ในสมัยก่อนเป็นอะไรที่สนุกสุดเหวี่ยง ทั้งได้บุญ ได้กระชับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว เนื่องจากคนไทยสมัยก่อนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ รวมถึงการออกไปวัด ซึ่งเป็นสถานที่จัดอีเว้นท์ที่ครบวงจร ทำให้พบปะผู้คนในหมู่บ้าน ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาอีกด้วย แต่ในยุคปัจจุบัน ถ้าจะถามหาตัวกลางเรื่องอีเว้นท์ ที่รวมคนที่ชอบมางานอีเว้นท์ ผู้จัดงานอีเว้นท์ และเจ้าของสถานที่จัดอีเว้นท์ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า Zipevent นั้น ครบ จบ ในที่เดียวจริงๆ
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย
- Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
- Instagram: @Zipevent
- Website: www.zipeventapp.com
- Twitter: @Zipevent
- Facebook: @Zipevent
