Trending Now

จากตำนานของกรีกโรมันอย่าง “Venus” หรือ “Aphrodite” ที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นเทพีแห่งความรัก ความงาม เพศ ภาวะเจริญพันธุ์ และความรุ่งเรือง ซึ่งจากเรื่องเล่าและตำนานต่างๆ ก็ทำให้พวกเราได้รู้ว่าวีนัสเองก็ยังพบกับความสุขสมหวัง ผิดหวัง โศกเศร้า โกรธแค้น และสงสาร ซึ่งไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ธรรมดาเลย ซึ่งนี่แหละเป็นแรงบันดาลใจของคุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล กับนิทรรศการ Venus in the Shell

ที่ผ่านมาในหลายศตวรรษ เรื่องราวของเทพีวีนัสได้ถูกนำไปใช้ในงานศิลปะหลายต่อหลายชิ้น ทั้งงานประติมากรรม จิตรกรรม และสินค้า เช่นภาพ ‘The Birth of Venus’ ผลงานของ ซันโฮเซ บอตติเชลลี (Sandro Botticelli) หรืออย่างประติมากรรม ‘Venus de Milo’ ที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ทางการค้าของอุปกรณ์ตัดเย็บ

Venus in the Shell

การนำเสนอของนิทรรศการ “Venus in the Shell” ของคุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ได้แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 องก์ เหมือนกับการเดินเข้าไปในเปลือกหอกที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนได้แก่ Forbidden Flower, Moonlight Dive, Mandragora in the vas, และ The Wanderer

ในแต่ละส่วนของนิทรรศการได้ถูกเล่าออกมาถึงธรรมชาติบนโลกใบนี้ที่ทุกคนจะต้องพบเจอกับความเปราะบางของจิตใจ ความรัก ความโกรธ ความผิดหวัง ความสับสน ความอิจฉาริษยา ความสว่างสดใส รวมไปถึงความมืดมน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองคือธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ที่ศิลปินต้องการสื่อสารผ่านตำนานของเทพเจ้ากรีกอย่างวีนัสนี่เอง

โดยศิลปินเองต้องการจะเล่าว่าเทพีวีนัสก็ไม่ได้ต่างอะไรจากมนุษย์หรอก มีทั้งด้านดีและไม่ดี สวยงามและมืดหม่น แม้ว่าผู้คนจะมองว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกถึงความไม่สมบูรณ์ แต่กลับกันสิ่งเหล่านี้นี่แหละที่ได้บอกถึงความงามและคุณค่าความเป็นมนุษย์

องก์ที่ 1 ยินดีต้อนรับสู่ Venus in the Shell

ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้พาคุณเข้าไปดูภายในโรงละครเปลือกหอยของฉัน ปกติคุณจะมองเห็นฉันจากภายนอกเท่านั้น เพราะฉันไม่ค่อยเปิดม่านเชิญใครเข้ามาในที่ส่วนตัวของฉันหรอก

คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อมองไปรอบๆ สิงโตของฉันออกมาต้อนรับพวกคุณ คุณคิดว่า มันดูน่าเกรงขาม สง่างาม  ดุดัน หรือมันเชื่องเหมือนแมวที่บ้านคุณหรือเปล่า ส่วนทางนั้นก็มีเหล่านักรบมากมายฝึกฝนกระบวนท่าแปลกพิสดาร ด้วยท่าทางเข้มแข็ง และกล้าหาญ ช่างน่าประทับใจ นี่พวกเขาฝึกฝน กุณฑาลินี หรือ ชี่ กง ฉันก็ไม่อาจทราบได้ และที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือเหล่าเทพธิดาที่เป็นตัวแทนของความสมบูรณ์ ความดี พวกเธอช่างสวยงาม คุณเถียงฉันสิว่าเราต่างไม่หลงไหลในความดีงามนี้ ความดีงาม ที่เราต่างตกลงปลงใจ และใช้เป็นบรรทัดฐานของความเจริญตา เจริญใจ

มาสิ ฉันจะพาคุณไปพบกับความลับบางอย่าง ทำตัวตามสบายให้เหมือนกับคุณเป็นเจ้าของโรงละครเปลือกหอยแห่งนี้ จินตนาการถึงบทบาท และการแสดงของคุณในแต่ละวัน คุณแสดงได้สมบทบาท เข้าถึงความเป็นตัวคุณตามที่คุณเขียน หรือ คุณอาจเลือกเล่นตามบทที่คนอื่นเขียนให้?

ฉันเชื่อว่าบทบาททั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงความเป็นตัวฉัน และตัวคุณ ฉันไม่กล้าตัดสินคุณจากบทบาทที่คุณได้รับ และเช่นกันโปรดอย่าตัดสินตัวตนของฉันด้วยบทบาทของคุณ คุณกับฉันก็คงมีโลกอีกด้านหนึ่งเช่นกัน โลกหลังผ้าม่าน ที่ซ่อนเรื่องราวภายใต้เปลือกหอยนี้ ผ้าม่านที่ฉันเปิดออกไม่บ่อยครั้ง วันนี้เราจะเข้าไปพร้อมกัน

องก์ที่ 2 : Forbidden Flower

Venus in the Shell

เราต่างแอบซ่อนอีกโฉมหน้าเอาไว้ คุณคิดเหมือนฉันไหม อย่างน้อยก็มีเรื่องหนึ่งที่เรามักไม่ค่อยนำมาพูดคุยกัน งั้นเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของแมวน้อยก็แล้วกัน แมวน้อยตัวเล็กน่ารัก ที่ดูสะอาด และละเมียดละไมกว่าแมวทั่วไป ดูสิ… จะมีเจ้าแมวตัวไหนช่างดัดจริตใส่ถุงเท้าสีเขียว เหมือนเจ้าแมวตัวนี้อีก!

เจ้าแมวน้อยตัวนี้ชอบดอกบัวมากๆ เมื่อไรที่มันถือดอกบัวด้วยอุ้งเท้าของมัน ผู้คนก็มักจะชื่นชมในความที่มันดูบริสุทธ์ผุดผ่องของมันเป็นอย่างมาก จนกระทั้งวันหนึ่งเจ้าแมวก็เริ่มเกิดสงสัยว่า “ถ้าฉันลองเอาดอกบัวนี้ไปวางไว้บนส่วนอื่นบนร่างกายจะเป็นอย่างไรนะ” เจ้าเหมียวลองนั่งลงในท่าปกติของแมว ท่าที่แมวนั่งกัน มันลองเอาดอกบัววางไว้บนระหว่างขา  พร้อมกับเลียทำความสะอาด แบบที่แมวทุกตัวเลีย มันดูเลียอย่างมีความสุข

คุณสงสัยเหมือนฉันไหมว่าดอกบัวนี่มีรสชาติยังไง มาถึงตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไร คุณรู้สึกกระอักกระอ่วน หรือ รู้สึกว่ามันน่าอายไหม เจ้าแมวน้อยน่ารักยังดูบริสุทธ์ผุดผ่อง อยู่หรือเปล่า แล้วดอกบัวที่เจ้าแมวเลียไปแล้วล่ะ คุณยังคิดว่าดอกบัวนี้ยังคงเป็นดอกบัวดอกเดิมอยู่ไหม หรือว่าตอนนี้มันได้กลายเป็นดอกไม้ต้องห้ามไปแล้ว

องก์ที่ 3 : Moonlight Dive

Venus in the Shell

ในนี้อาจจะดูมืดไปสักนิด แต่ขอให้คุณมั่นใจว่ามันช่างปลอดภัยบนพาหนะนี้ เพราะเรามาด้วยสันติ ม้าไม้เมืองทรอยมีไว้รบกับศัตรูให้ย่อยยับ แต่ยานบินสีฟ้า Phoebus จะช่วยส่องแสงเข้าไปภายในเงามืดใต้แสงจันทร์ เพื่อทำความรู้จักเหล่าอสูรกาย ลองหลับตาลง จินตนาการว่าพวกเราอยู่บนยานอวกาศลำนี้ เดินทางเข้าไปในส่วนลึกในจิตใจ มันยากที่จะยอมรับว่าในใจของเรามีอสูรกายเหล่านี้ซ่อนอยู่ ทั้งความรัก ความเกลียด ความโกรธ ความกลัว ความริษยา โชคดีที่อสูรกายเหล่านี้ ชอบความเท่าเทียม พวกเราทุกคน ถึงได้รู้จักอสูรกายเหล่านี้เหมือนๆ กัน

เชื่อว่าไม่ใช่แค่พวกเรา เพื่อนของเรา เพื่อนบ้าน เจ้านาย ลูกน้อง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง คุณครู หรือแม้กระทั่งนักบวช คนรวย หรือคนจน ก็คงเคยผ่านการรู้จักอสูรกายเหล่านี้มาทุกคน และขณะนี้พวกเราก็ยังคงอยู่ในสนามการต่อสู้ ของเหล่านักรบ และ อสูรกาย ฉันคิดว่าพวกเราต่อสู้เพื่อเข้าใจ และทำความรู้จัก รับมือ และกำราบเหล่าอสูร เปิดสัญญาณให้พวกมันรู้ว่า เรามาอย่างสันติ เราจะมีเวลาที่จะรู้จักพวกมันแต่ละตัวมากขึ้น ใจดีกับตัวเราเอง และอสูรกายของเรา รู้สึกสบายใจขึ้นไหม ไม่ใช่แค่คุณและฉัน ไม่ใช่แค่คุณคนเดียว หรือฉันคนเดียว ที่ต้องต่อสู้กับ อสูรกาย  เราต่างก็กำลังต่อสู้กับอสูรกายของเราไปพร้อมๆ กัน

องก์ที่ 4 : Mandragora in the Vase

ยิ่งพวกเราก้าวเข้าไปในส่วนลึกของโลกนี้มากเท่าไหร่ เราก็จะเห็นได้ว่ามีอีกหลายสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา มีอีกหลายอย่างที่พวกเราควบคุมไม่ได้ และสิ่งนั้นอาจจะควบคุม และจำกัดชีวิตของพวกเราด้วย มีอีกเรื่องที่ฉันอยากจะเล่า หวังว่าคุณจะยังไม่เบื่อเรื่องเล่าของฉัน ฉันเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ได้ทั้งวัน คุณจะออกไปดื่มน้ำสักแก้ว ทานแซนวิชซักคู่ถ้าคุณหิว แล้วมาฟังฉันพูดต่อก็ได้

เรื่องนี้เกี่ยวกับพืชไม้หม่นชวนพิศวง mandragora หรือ mandrake ชื่อมันเก๋ ใช่ไหมล่ะ!ในเรื่องเล่า mandrake เป็นพืชที่รูปร่างคล้ายคน มันจะแผดเสียงเวลาที่เราดึงมันขึ้นมาจากดิน เสียงนั้นทำให้คนที่ได้ยินตายได้เลยทีเดียว mandrake ช่างเหมือนพวกเราในบางครั้ง มีทั้งด้านที่น่ากลัว และสวยงาม มีคุณประโยชน์เมื่ออยู่ถูกที่ และโดนลดทอนคุณค่า เมื่ออยู่ผิดที่ผิดทาง เราต่างอยากเจริญเติบโต ขยายกิ่งก้านสาขา และทำประโยชน์ได้มากมาย แม้ว่าบางทีเราอาจจะแผดเสียงออกมาบ้างเวลาเราไม่พอใจ  แต่หลายๆ ครั้งเราไม่สามารถทำได้  เหมือนต้น mandrake ที่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในแจกัน แจกัน ที่มีคนเลือกพาเรามาจัดใส่ไว้

คุณเคยลองถามตัวเองไหมว่า “กี่ครั้งที่เราปล่อยให้กฎเกณฑ์ ประเพณี และค่านิยมทางสังคม หรือมาตรฐานที่สังคมวางไว้ มาลดทอนพื้นที่ของตัวคุณเอง กี่ความฝัน หรือความชื่นชอบของคุณที่ถูกทอดทิ้งไป เพียงเพราะเราได้ยินคำสบประมาทที่บั่นทอนจิตวิญญาณของเรา” ลองมองไปที่เจ้า mandrake อีกครั้ง คุณว่าสถานการณ์ของมันเหมือนพวกเราในตอนนี้ไหม

องก์ที่ 5 : The Wanderer

ขอแสดงความยินดีด้วย คุณมาถึงส่วนสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนี้แล้ว ฉันก็เริ่มหิวน้ำนิดๆ แล้วเหมือนกัน ขอวิ่งไปจิบน้ำซักสามนาที หลังจากที่คุณเดินสำรวจภายในเปลือกหอยนี้ด้วยกัน คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง ตื่นเต้น เหนื่อยล้า ทุกข์ หรือว่าสุขใจ ?

โอ้…..ดูเหมือนว่าพวกเราก็จะมีปมในใจ ที่มักทำให้เรารู้สึก แสบคันไปทุกครั้งที่คิดถึง อะไรที่ทำให้ใจคุณหม่นหมองกัน? ลืมมันไปเสียเถอะ! “เวลาจะช่วยให้คุยลืม และให้อภัยคนที่เคยทำร้ายคุณ” จงประนีประนอม การให้อภัยคือแก่นแท้ของความบริสุทธ์ดีงาม! จงรักศัตรูของคุณ! คุณเคยได้ยินประโยคพวกนี้เหมือนฉันไหม

เพื่อจะบำเพ็ญเพียรเป็นมนุษย์ โรงเรียนได้สอนให้เจ้าปลาทองตัวกลม กระปุกลุ๊ก รู้จักการให้อภัย และปล่อยวาง ด้วยการ “ลืม ลืม มันไป”  คุณครูของเจ้าปลาทองต่างก็คิดว่ามันเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลืมอยู่แล้ว เพียงแค่สามวินาที ความแค้นก็ดับสลาย มลายสิ้น เจ้าปลาทอง เจ้าสิ่งมีชิวิตที่แสนโชคดี แต่มันจริงหรือที่เจ้าปลาทองจะสามารถลืมทุกๆ ความเจ็บปวดของมันได้? คุณล่ะคิดว่าอย่างไร? แล้วเจ้ากุ้งล็อบสเตอร์ล่ะ ถ้าเวลาผ่านไปจะขี้ลืมเหมือนเจ้าปลาทองด้วยไหม

สุดท้ายแล้วเวลาก็ยังคงหมุนไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ต่างก็ถูกขับเคลื่อนไปไม่มีที่สิ้นสุด  เวลาเป็นสิ่งที่ช่างน่าแค้นใจ บางทีฉันก็รู้สึกหมั่นไส้ที่เธอไม่แยแสใครเลย บางทีก็รู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตเหมือนกับนักท่องเวลา ที่ออกพเนจร เวลาเดินไปข้างหน้าแบบไม่สนใจนักพเนจร ไม่หยุดรอเวลาเราสะดุด ไม่ช่วยให้เราลืมเรื่องที่เราไม่ชอบ และเตือนเราทุกครั้งผ่าน facebook เวลาเดินเร็วทุกครั้งที่เรามีความสุข เดินช้าทุกครั้งที่เราช้ำใจ 

การเดินทางไปกับเวลานี้ ฉันอยากเดินทางไปด้วยความเข้าใจ  เข้าใจในตัวฉันเอง เพื่อที่วันหนึ่งฉันอาจจะเป็นอิสระจากเวลา ส่วนตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ม่านจะปิดลงแล้ว  คุณสังเกตเห็นวีนัสไหม เธออยู่ในเปลือกหอยนี่แหละ!

จากเนื้อหาที่ศิลปินต้องการจะสื่อสารออกมาผ่านเทพีวีนัสนี้เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากๆ แต่นี่ก็เป็นเพียงเนื้อหาของนิทรรศการเพียงเท่านั้น ถ้าหากอยากรู้ว่าศิลปินต้องการสื่อออกมาผ่านงานศิลปะในรูปแบบไหน ไปเจอกันได้ที่ นิทรรศการ “Venus in the Shell” โดย ปัณพัท “ยูน” เตชเมธากุล

  • ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564
  • สามารถเข้าชมนิทรรศการได้ฟรี
  • River City BANGKOK Galleria ชั้น 2

ติดตามผลงานของปัณพัท “ยูน” เตชเมธากุล ได้ทาง www.phannapast.com
Instagram & Facebook: Phannapast สามารถรับชมภาพพร้อมมีส่วนร่วมได้ที่แฮชแท็ก #phannapast #venusintheshell


ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

  • Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
  • Instagram: @Zipevent
  • Website: www.zipeventapp.com
  • Twitter: @Zipevent
  • Facebook: @Zipevent

Comments

comments