หลายๆ คนมีความเชื่อว่า โลกของเราถูกสร้างมาจากส่วนประกอบที่เป็นขั้วตรงกันข้ามกัน ไม่ว่าจะเป็นขั้วบวกขั้วลบ ความดีความชั่ว ความอ่อนแอกับความแข็งแรง ความต่างเหล่านี้เองที่คอยทำให้โลกของเราเกิดความสมดุล แต่การที่คนเราจะดำรงอยู่ท่ามกลางภาวะแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องพยายามรักษาจุดยืนและตัวตนของเรา ในขณะที่คงดุลยภาพนี้ไว้ เหมือนกับนิทรรศการ Alpha/Omega ของรุกข์ โฟล์โร

Alpha/Omega

Alpha และ Omega คือตัวอักษรตัวแรกและตัวสุดท้ายของพยัญชนะกรีก เหมือนเป็นตัวแทนของจุดเริ่มต้นและจุดจบที่ทั้ง 2 ต่างก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน แม้ว่าตัวอักษรทั้ง 2 จะอยู่ห่างกันสุด แต่ก็ทำหน้าที่เป็นขอบเขตให้กับตัวอักษรอื่นๆ เหมือนกันกับน้ำและไฟ ที่ทั้ง 2 พลังเป็นตัวแทนของความร้อนรนและความสงบเยือกเย็น แต่เมื่อทั้ง 2 พลังงานนี้ทำงานด้วยกันก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและจุดจบของทุกสรรพสิ่ง

ในงานนิทรรศการนี้ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานที่เกิดจากความเข้าใจกับอัตลักษณ์ของตัวศิลปินเอง โดยเขาแยกออกมา 4 รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ Alpha/Omega อัตลักษณ์ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวและลึกซึ้งที่สุดที่ได้เป็นพื้นฐานตัวตนของเขา แต่ก็เป็นอัตลักษณ์ที่เขาได้เลือกพิจารณาหลังสุดเช่นเดียวกัน เขาได้เดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 25 ปี ในการเดินทางครั้งนี้เขาเองได้ค้นพบและรู้สึกในสิ่งที่คุ้นเคยจากสิ่งที่เขาเองไม่เคยได้รู้จักมาก่อน

รุกซ์ ได้โตขึ้นจาก 2 วัฒนธรรม 2 ภาษา เขาเองได้ซึมซับการใช้ชีวิตทั้ง 2 รูปแบบ ทั้งไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ หรือแม้จะไปเข้าวัดของศาสนาพุธ นอกจากนี้เขายังพูดภาษาอังกฤษกับพ่อ แล้วหันไปพูดภาษาไทยกับแม่ เขาเองได้สลับภาษาได้โดยอัตโนมัติ ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดที่ได้เปลี่ยนเพียงอย่างเดียว แนวคิดของเขาเองก็เปลี่ยนด้วยเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย แต่อิทธิพลจากทางบ้านเกิดของฝั่งพ่อทำให้เขาเองก็ได้รับการใช้ชีวิตแบบคนฟิลิปปินส์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม หรือความเชื่อและแนวคิดต่างๆ ที่ได้ซึมซับเข้าไปในวิถีชีวิตของศิลปิน ตัวศิลปินเองเขาต้องทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่คอยประสานความเข้าใจของพ่อและแม่ตั้งแต่เด็ก ที่พวกเขาได้มีปัญหาทางด้านการสื่อสารและวัฒนธรรมที่มีความต่างกันพอสมควร ทุกสิ่งเหล่านี้สร้างให้เกิดสองความนึกคิด สองจิตสำนึก ที่หลอมรวมอยู่ในคนๆ เดียว

หลังจากการเดินทางในครั้งนั้นตัวเขาเองก็ได้เริ่มสงสัยและสนใจ รวมถึงตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวตนของเขาว่าเขาจะเป็นใคร และจะเป็นอย่างไรถ้าครอบครัวเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่ฟิลิปปินส์แทนที่ประเทศไทย ประสบการณ์ครั้งนี้กระทบต่อความรู้สึกและทำให้เขาได้นั่งครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ มวลความรู้สึกนี้ถูกกลั่นกรองออกมาเป็นผลงานที่ปรากฎอยู่ในนิทรรศการนี้ การสรรค์สร้างที่ถูกคาดหวังให้มาพร้อมกับความเข้าใจที่มากขึ้นผ่านทางการแสดงออกทางศิลปะ

นิทรรศการนี้เป็นเพียงแค่บทนำของการเริ่มต้นการเดินทางของศิลปิน การเดินทางที่ยากลำบากที่สุดของเขาเองคือการพยายามที่จะทำความเข้าใจตัวเอง การเรียนรู้ที่ต้องการระยะเวลาบางคนต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหาคำตอบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราพยายามเติบโตและเรียนรู้ รวมไปถึงการก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดนิ่ง ในขณะที่พยายามรักษาสมดุล ระหว่างร่างกายและจิตใจของเราเอง

นิทรรศการศิลปะร่วมสมัย Alpha/Omega : The one between fire and water โดย รุกข์ โฟล์โร

  • WTF Gallery & Cafe
  • 28 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 2563
  • งานเปิดนิทรรศการ: วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2563 เวลา 18.00 น.

ไปดูกันว่าบทนำของการเดินทางของ รุกข์ โฟล์โร จะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านงานศิลปะให้พวกเราดูในรูปแบบไหนกัน บอกเลยว่าเป็นอีกนิทรรศการที่น่าสนใจมากๆ ครั้งหน้าซิปอีเว้นท์จะชวนทุกคนไปนิทรรศการไหนต้องรอติดตามกันไว้เลยน้าาา


ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

  • Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
  • Instagram: @Zipevent
  • Website: www.zipeventapp.com
  • Twitter: @Zipevent
  • Facebook: @Zipevent

Comments

comments