ในช่วงกักตัวตอนโควิด-19 หลายๆ คนต่างก็ต้องดิ้นรนในการมีชีวิตอยู่ คล้ายๆ กับการขึ้นบนสังเวียนมวย ที่จะต้องต่อสู้เพื่อความเป็นอยู่แบบไม่มีใครยอมใคร ซึ่งเหมือนกับนิทรรศการ RAMPANT ที่ได้ถ่ายทอดมุมมองให้ออกมาเป็นเรื่องราวจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย โดยนิทรรศการนี้เป็นนิทรรศการคู่ของศิลปินร่วมสมัยและศิลปินนามธรรม อย่าง พิชัย พงศ์เสาวภาคย์ และสุดาภรณ์ เตจา

บนสังเวียนของการต่อยมวย สิ่งที่ต้องมีคู่กันเลยคือเสียงระฆังดังกังวาล ที่จะส่งเสียงสัญญาณก่อนที่นักมวยจะเริ่มทำการต่อสู้ ซึ่งจุดประสงค์ของการต่อสู้ก็อาจจะทำไปเพื่อชื่อเสียง ความเป็นอยู่ ปากท้อง เกียรติยศ หรือเงินรางวัล เป็นการต่อสู้แบบไม่มีใครยอมใคร เสียงเชียร์ที่ดังสนั่นได้กลบเสียงกล่องแพนโดร่าที่เปิดออกอย่างเงียบเชียบ ไอมรณะก็ได้พุ่งออกมาจากกล่องอย่างรวดเร็ว ค่อยๆ กระจายตัวและแผลงฤทธิ์ออกไปในวงกว้างโดยไม่เลือกหน้า นำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ของประเทศ

เวทีชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดกำลังเริ่มขึ้น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนล้วนแต่ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนจะต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหวาดระแวง ความเป็นและความตายที่ดูเป็นสิ่งใกล้ตัว หายนะครั้งนี้จะจบลงอย่างไรและจะสิ้นสุดที่ใด ยังถูกทิ้งไว้เป็นคำถามให้กับการรอคอยอย่างมีความหวัง

นิทรรศการนี้ได้มีการสะท้อนถึงแนวคิดการข้ามขอบเขตของความกลัว ความเป็นความตาย จากเงื่อนไขการบังคับของเวลา และการจัดวางทางอารมณ์และความรู้สึก โดยนิทรรศการนี้เป็นโปรเจกต์พิเศษที่ได้การร่วมมือกันของแกลเลอรีชั้นนำของประเทศไทยอย่าง ศุภโชค ดิ อาร์ท เซ็นเตอร์ และเซรินเดีย แกลเลอรี่

rampant

พิชัย พงศ์เสาวภาคย์ จะพาเราไปสู่ประสบการณ์เฉียดตายจากความเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมานจากโรคลำไส้ และการที่เขาต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในช่วง พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ซึ่งจุดนี้เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายที่ทำให้ศิลปินได้ตั้งคำถามถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในอดีตของเขา  เวลาที่ได้สูญเสียไป และคุณค่าของเวลาในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ความเชื่อมโยงของสถานการณ์ กฎเกณฑ์ และเวลา ทั้งหมดนี้คือปัจจัยที่บังคับให้ชีวิตได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในสภาวการณ์เหล่านี้ถูกนำมาเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างสรรค์ผลงานในชุดนี้ เพื่อถ่ายทอดผลงานผ่านสื่อผสมนามธรรมเชิงสัญลักษณ์และศิลปะของการจัดวาง ถูกสร้างสรรค์เพื่อสร้างมิติใหม่ของการตีความให้กับผู้ที่ได้เข้าชมและย้อนมองดูชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขา

สุดาภรณ์ เตจา ถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตในช่วงกักตัว เธอได้ลองสำรวจสิ่งรอบตัวและได้พบเจอการต่อสู้เอาชีวิตรอดของสิ่งมีชีวิตที่ได้มาเกี่ยวข้องกันอย่างบังเอิญ ช่วงเวลาที่ได้เฝ้ามองการให้กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ที่เขาได้ฟูมฟักดูแลและสังเกตเห็นการเจริญเติบโตในทุกขณะ ทำให้เกิดความสุขเล็กๆ ในชีวิตของเธอ ที่ช่วยเยียวยาจิตใจจนทำให้ลืมความทุกข์ไปสักพัก

ทำให้เธอกลับมาตั้งคำถามกับลำดับความสำคัญของความรู้สึกต่างๆ ในชีวิต และทำให้ได้ลองหันกลับมามองชีวิตในช่วงที่มีเวลาเหลือมากมาย การจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกก็ทำให้เห็นถึงความสุขอันเรียบง่าย ที่บางครั้งเราอาจจะหลงลืมและมองข้ามไป สุดาภรณ์ได้ถ่ายทอดออกมาผ่านงานจิตกรรมนามธรรม และงานสื่อผสมในเชิงลักษณะ โดยคำนึกถึงมุมมองรวมไปถึงการจัดวางอย่างมีนัยยะ เพื่อให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมกับผลงานอย่างใกล้ชิด

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อยากจะรู้เลยว่าพวกเขาจะถ่ายทอดงานออกมาในรูปแบบไหน ไปเจอกันได้กับงาน RAMPANT ที่ AHH STUDIO GALLERY กันได้เลยนะทุกคน

  • งานเปิดนิทรรศการ RAMPANT จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563
  • ตั้งแต่เวลา 14.00 – 21.00 น.
  • ณ AAH STUDIO GALLERY
  • นิทรรศการนี้จัดแสดงจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564
  • หากต้องการเข้าชมภายหลังวันเปิดงาน กรุณาติดต่อเพื่อนัดหมายล่วงหน้าผ่านทาง Facebook Page ของ AAH STUDIO GALLERY

ช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะผ่านมาอะไรมามากมาย ไม่ว่าจะหนักหรือเบา ซิปก็อยากให้กำลังใจทุกคนเพื่อที่จะเดินหน้าใช้ชีวิตต่อกันนะ แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเองกันให้ดีๆ นะคะ 🙂 ครั้งหน้าซิปจะมีนิทรรศการอะไรที่น่าสนใจอีกก็รอติดตามกันได้เลย


ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

  • Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
  • Instagram: @Zipevent
  • Website: www.zipeventapp.com
  • Twitter: @Zipevent
  • Facebook: @Zipevent

Comments

comments