คงต้องยอมรับว่าอุตสหกรรมทางด้านอีเว้นท์นั้น ค่อนข้างที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ของโรคระบาดที่ตอนนี้ก็ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ปัญหานี้นับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับงานอีเว้นท์พอสมควร ที่ทำให้อุตสาหกรรมในประเภทนี้จำเป็นต้องมีการปรับตัวไปเข้าสู่ขั้นตอนของการออนไลน์มากขึ้น ที่ไม่ว่าจะเป็น Online Event, Live Streaming หรือ Virtual Event เองก็ตาม ซึ่งวันนี้เราจะมาสำรวจ พฤติกรรมอีเว้นท์ กัน
จึงเกิดเป็นคำถามที่ตามมาก็คืองานอีเว้นท์ออนไลน์พวกนั้นจะมาคร่าหรือทำให้ พฤติกรรมอีเว้นท์ ของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า!? … คำตอบที่แน่ชัดก็คือมีการเปลี่ยนแปลงเพราะผู้จัดงานย้ายฐานแพล็ตฟอร์มจากออฟไลน์มาใช้ทางเลือกด้านออนไลน์มากขึ้น และการจัดงานออนไลน์อีเว้นท์แบบประเภทของ Virtual Event เห็นจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของการสร้างอีเว้นท์ออนไลน์ที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับ Experience กลับไป เพราะเป็นการจำลองงานอีเว้นท์เสมือนจริงที่สุด ซึ่งตรงนี้จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งคำถามตามมาว่า
แล้ว Virtual Event จะมาฆ่า FOMO จริงหรือ?
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกับ FOMO กันก่อน
Fear of Missing out หรือ FOMO ให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือการที่กลัวตัวเองจะตกกระแส กลัวว่าตัวเองจะไม่ทันข่าวกับข่าวร้อนมาแรงที่เกิดขึ้นอยู่บนโลกใบนี้ จึงทำให้ตัวเองอยากจะรู้ / อยากจะแชร์ก่อนใคร ต้องไปก่อนใคร อัพเดทคอนเท้นท์ตลอดเวลา จึงทำให้เกาะติด Social Network เป็นชีวิตจิตใจ
จากสถิติได้กล่าวเอาไว้ว่า
– ประชากรโลก 64% ยอมรับว่าเคยมีประสบการณ์หรือรู้สึก FOMO ในยามที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ โดยคนเอเชีย รู้สึก FOMO ถึง 80%
– เกือบ 1 ใน 3 หรือ 30% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์ 6 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ใน 1 วัน
จากสถิติด้านบนจะเห็นได้ว่าก็ดูเป็นทางเลือกที่ดีของงานอีเว้นท์ประเภทออนไลน์ Virtual Event ดีนิแล้วจะมีปัญหาได้ยังไง ในเมื่อมีตั้ง 64% ของประชากรโลกที่ท่องอินเตอร์เน็ตทั้งวัน แล้วจะส่งผลเสียได้ยังไง?
FOMO กับพฤติกรรมของคนไทย
พฤติกรรมของคนไทยต่อการท่องโลกออนไลน์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ชั่วโมง 11 นาทีต่อวัน และจะใช้เวลาไปกับ 3 กิจกรรมหลัก คือ
- Social Media เฉลี่ย 3 ชั่วโมง 11 นาทีต่อวัน
- ดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มทีวี ครอบคลุมทั้ง Broadcast, Video streaming, Video on demand 3 ชั่วโมง 44 นาทีต่อวัน
- ฟัง Music Streaming 1 ชั่วโมง 30 นาที
ดูเพิ่มเติม: https://www.zipeventapp.com/blog/2020/05/21/virtual-space-event-by-zipevent/
Virtual Event จะมาทำลาย FOMO ยังไง?
สิ่งที่หลายๆ คนกังวลว่าอีเว้นท์เสมือนจริงจะมาทำลาย FOMO ยังไง กล่าวคือ เนื่องจากบางงานจำเป็นที่ต้องมีการลงทะเบียน ซื้อบัตร จำกัดคนเข้า เก็บกำไรจากการขายบัตรเพื่อคืนทุนให้กับผู้จัด เพราะการสร้างอีเว้นท์ในประเภทนี้จริงอยู่ที่ประหยัดเวลา แต่ก็ยังคงต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำขึ้นมาอยู่ดี ซึ่งตรงนี้อาจจะมาเปลี่ยนพฤติกรรมของคนกลุ่ม FOMO ให้ลดน้อยลง มีเงื่อนไขมาคั่นกลางเอาไว้ แต่สิ่งนี้ก็ยังคงเป็นคำถามที่ยังไม่สามารถตอบได้แน่ชัดมากนักว่าอีเว้นท์ที่จำลองและเสมือนจริงจะมาทำลายล้างความเกาะติดกระแส หรือเรียกง่ายๆ ว่าความอยากรู้อยากเห็นได้
ดูเพิ่มเติม: https://www.zipeventapp.com/blog/2020/06/17/hybrid-event/
สรุปง่ายๆ คือ ถ้า FOMO คือการกลัวที่จะตกเทรนด์ แล้ว Virtual Event คือการจำลองสภาพแวดล้อมของงานอีเว้นท์ที่จัดขึ้นจริงย้ายขึ้นมาอยู่บนโลกออนไลน์ และการที่ Virtual Event จะมาทำให้การกลัวที่จะตามกระแสไม่ทันนั้น สิ่งที่บรรดาผู้จัดต้องทำก็คือ
ถ้า FOMO เปรียบเป็นการสร้างกระแส งานอีเว้นท์ที่จัดก็ต้องเป็นกระแส
ง่ายๆ เลยก็คือตัวเนื้อหางาน คอนเซ็ปต์ของงานที่จัดขึ้นแม้จะเป็นรูปแบบอีเว้นท์ที่จำลองสถานการณ์ในรูปแบบเสมือนจริงขึ้นมา ก็ต้องมีความน่าดึงดูดให้คนให้เข้ามาดูจนกลายเป็นกระแส คิดคอนเท้นท์ที่ทันสมัย สร้าง Experience ที่น่าจดจำ
อีกทั้งอีเว้นท์ประเภทนี้ยังเป็นทางออกใหม่ของออแกไนซ์ ได้ด้วย เพราะประหยัดงบประมาณ และยังสามารถช่วยเพิ่ม Time Section ให้กับตัวอีเว้นท์ได้เพิ่มขึ้นในรูปแบบออนไลน์ สร้างโอกาสเพิ่มเติมทางธุรกิจได้มากขึ้น
ทั้งนี้ Virtual Event ของเรา Zipevent นั้น เราเข้าใจถึงความต้องการของออแกไนซ์และผู้เข้าร่วมชมงานว่าต้องการสิ่งไหนมากที่สุด ดังนั้นเราสามารถที่จะ Custom ได้ตามความต้องการของผู้จัดงาน พร้อมทั้งคำนึงถึงความต้องการของทั้งสองฝ่ายเป็นหลัก เหมือนยกอีเว้นท์ที่เกิดขึ้นจริงมาใส่ไว้ในหน้าจอ!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Virtual Event ได้ทาง
sales@zipeventapp.com
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย
- Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
- Instagram: @Zipevent
- Website: www.zipeventapp.com
- Twitter: @Zipevent
- Facebook: @Zipevent