อีกหนึ่งปัญหาที่คิดว่าหลากหลายบ้าน หลากหลายคนต้องประสบพบเจอกันในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นค่าไฟที่พุ่งสูงปรี้ดอย่างแน่นอนใช่มั้ยล่ะ เพราะไหนช่วงนี้ก็ได้เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มตัวแล้ว ประจวบกับใครหลายๆ คนที่ต้องทำงานจากที่บ้านกันอีก ก็ยิ่งส่งผลให้ค่าไฟอาจจะบานปลายได้ วันนี้ซิปอีเว้นท์จึงเห็นถึงความเหมาะสมที่จะมาแชร์วิธีประหยัดไฟแบบเล็กๆ น้อยๆ เพื่อช่วยจำกัด ประหยัดไฟ ให้ไม่บานปลายมาแนะนำกัน
บริหารเวลาเปิด-ปิดแอร์
หน้าร้อนแบบนี้ แถมยังต้องทำงานอยู่บ้านอีกสิ่งที่จะช่วยเราให้ก้าวข้ามผ่านอากาศที่สูงปรี้ดแบบนี้ไปได้คงหนีไม่พ้นการเปิดแอร์อย่างแน่นอน แต่ถ้าจะให้เปิดแอร์ตลอดคงจะกินไฟ แถมค่าไฟยังพุ่งสูงอีกแน่ๆ ดังนั้นเราจึงควรที่จะบริหารเวลาในการเปิด-ปิดแอร์ และเปิดในอุณหภูมิที่เหมาะสม 25 องศา และอีกหนึ่งที่ช่วยประหยัดไฟ ก็คือการตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนตื่นนอนประมาณ 1 ชั่วโมง
ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน
อีกข้อที่สำคัญเอามากๆ คือการถอดปลั๊กทุกครั้งหลังจากการใช้งานที่ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ก็ตาม เช่น สายชาร์จโทรศัพท์ ที่ชาร์จแบตคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงสิ่งอื่นๆ ที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า กะทะ หม้อหุงข้าว ต่างๆ เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็ควรดึงปลั๊กออกทุกครั้งด้วยนะ เพราะถ้าเกิดลืมขึ้นมาไม่แน่ค่าไฟอาจจะพุ่งโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยเป็นได้
ลองจัดระเบียบตู้เย็น
อยู่บ้าน Work From Home ทั้งที ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าต้องมีของกินประทัง พร้อมทั้งเก็บตุนของเอาไว้ในตู้เย็นกันใช่มั้ยล่ะ แต่การซื้อของมาแล้วจับยัดของไว้ในตู้เย็นนั้นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์แถมยังทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก เปลืองไฟมากๆ อีกต่างหาก ดังนั้นทางที่ดีเวลาซื้อของมาทุกครั้งสิ่งไหนที่จำเป็นที่จะต้องเข้าตู้เย็น แนะนำให้แยกประเภทและจัดระเบียบของตู้เย็น
ปิดไฟในดวงที่ไม่ใช้งาน
แน่นอนว่าการทำงานอยู่ที่บ้านจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้ามากมายเข้ามาข้องเกี่ยว แต่จริงๆ แล้วเราก็สามารถประหยัดไฟได้นะ โดยหันมาปิดไฟในบริเวณที่ไม่จำเป็น ไม่ต้องให้เปิดไว้ตลอดทั้งคืนก็ได้ หรือถ้าหากเป็นตอนกลางวันแนะนำให้นั่งทำงานในบริเวณที่มีแสงเข้า งดการเปิดไฟ หันไปเปิดหน้าต่างแทน เพียงเท่านี้ก็สามารถลดค่าไฟฟ้าไปได้เท่านึงเลยนะ
ลองนำวิธีที่เราเสนอไปใช้กันดูนะทุกคน ไม่แน่น้าค่าไฟเดือนหน้าของคุณอาจลดลงก็เป็นได้
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย
- Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
- Instagram: @Zipevent
- Website: www.zipeventapp.com
- Twitter: @Zipevent
- Facebook: @Zipevent
