ในปีนี้ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ขอแนะนำศิลปะรูปแบบใหม่ที่กรุงเทพ นิทรรศการมัลติมีเดีย FROM MONET TO KANDINSKY ที่นำเสนอศิลปะ ความรู้และความบันเทิง เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกวัย และมีแบ็คกราวนด์ที่ต่างกันมากถึง 60,000 คนในช่วงที่จัดแสดง 12 สัปดาห์ที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
ด้วยราคาบัตรที่พอๆ กับบัตรชมภาพยนตร์ นิทรรศการ ‘M2K’ (From Monet to Kandinsky) เป็นที่รู้จักในโซเชียลมีเดีย ดึงดูดให้ผู้ชมมาชมพร้อมครอบครัว คนรัก และผู้ที่ไม่รู้จัก ผู้คนนับร้อยคนในคราเดียวต่างประทับใจไปกับความงดงามของภาพจิตรกรรมที่สำคัญที่สุดในโลกพร้อมๆ กับบทเพลงอันเป็นที่จดจำ
รูปแบบทางศิลปะใหม่นี้นำเสนอผ่านดิจิทัล มรดกแห่งโลกศิลปะที่ศึกษามาแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญถูกปลุกให้มีชีวิตอีกครั้งผ่านภาพเคลื่อนไหว องค์ประกอบสำคัญถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น ฝีแปรงสร้างจินตนาการไปกับบทเพลงของนักประพันธ์ และนักดนตรีผู้มีชื่อเสียง
สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นที่ MODA (Museum of Digital Art) ณ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
ผู้มาชม MODA จะมีประสบการณ์เช่นเดียวกับนิทรรศการ FROM MONET TO KANDINSKY และ ITALIAN RENAISSANCE โดย MODA จะเริ่มในวันที่ 15 มกราคมถึง 16 เมษายน 2020 ในธีม Something Nouveau นำเสนอศิลปินในยุคทองของอาร์ตนูโว (Art Nouveau) ไม่ว่าจะเป็นคลิมท์ (Klimt) มูคา (Mucha) และเบียร์ดสเลย์ (Beardsley) อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
นอกจากนี้ภายในนิทรรศการมีโซนที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้ผู้ชมได้เดินเข้าไปสัมผัสมีการยิงแสงเลเซอร์ และฉายโปรเจ็กเตอร์ไปพร้อมกับเสียงเพลงอันเร้าอารมณ์ เพื่อมอบประสบการณ์ให้ผู้ชมได้ดำดิ่งไปกับงานศิลปะอย่างไม่รู้ตัว
มีอุปกรณ์ Headset ทำให้ผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมในเกมหรือการเดินทางไปสู่โลกเสมือนจริงที่ไหนสักแห่ง
กรุงเทพเป็นเมืองแรกของโลกที่มี MODA โอเลก มารินิน (Oleg Marinin) แห่ง Vision Multimedia Projects (VMP) บริษัทดิจิทัลโปรดักชั่นจากยุโรปผู้อยู่เบื้องหลัง MODA กำลังจะเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่ประเทศดูไบ เมืองซูริค และกรุงมอสโควในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยในแต่ละปี MODA จะนำเสนอนิทรรศการใหม่ๆ พร้อมประสบการณ์ที่จะพาให้ผู้ชม ดำดิ่งไปพร้อมกันและการเดินทางไปสู่โลกเสมือนจริง
คุณยุทธชัย จรณะจิตต์ Group CEO แห่งบริษัทอิตัลไทย กล่าวถึงการลงทุนครั้งนี้ว่า “เนื่องจากริเวอร์ซิตี้แบงค็อกเป็นหนึ่งในอาร์ตเซ็นเตอร์ร่วมสมัยในกรุงเทพ ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมจึงเป็นคำมั่นของเราที่จะคัดสรรศิลปะวัฒนธรรม และความรู้ในทุกสิ่งที่เราทำขึ้น”
ลินดาเชงกรรมการผู้จัดการของริเวอร์ซิตี้แบงค็อกกล่าวว่า “MODA เนรมิตให้ศิลปะของศิลปินต่างๆ ทั่วโลกเข้าถึงทุกคนได้เราสนับสนุนนิทรรศการ พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับผลงาน และศิลปินผู้สร้างสรรค์สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับแกลเลอรีที่ดีที่สุดในโลก MODA นำเสนอวิถีทางใหม่ในการชมผลงานศิลปะของศิลปินที่ชื่นชอบในบริบทใหม่สำหรับใครที่เริ่มสนใจศิลปะ MODA จะเป็นประสบการณ์แรกอันยอดเยี่ยมสำหรับทุกครอบครัว”
MODA – Museum of Digital Art Bangkok
MODA เริ่มเปิดในวันที่ 15 มกราคมพร้อมกับประสบการณ์ที่แตกต่างโดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนบางพิพิธภัณฑ์อย่าง MORI ในกรุงโตเกียวนำเสนอศิลปะคิจิทัลแบบร่วมสมัย ในขณะที่ Ateler des Lumieres ที่กรุงปารีสนำเสนอนิทรรศการศิลปะคลาสสิคแบบดิจิทัล ซึ่งไม่บ่อยนักที่แกลเลอรีหนึ่งจะนำเสนอศิลปะท่ามกลางโลกเสมือนจริง MODA ที่กรุงเทพนำเสนอทั้ง 3 รูปแบบคือนิทรรศการประสบการณ์ร่วม และโลกเสมือนจริง (VR)
MODA Gallery
‘Something Nouveau’ เป็นนิทรรศการแรกของปี 2020 ซึ่งเป็นการฉลองยุคทองของศิลปะแบบอาร์ตนูโวผ่านงานศิลปะอันพริ้วไหว และเพื่อการตกแต่งของกุสตาฟคลิมท์ (Gstav Klimt) อัลโฟนส์มูคา (Alphonse Mucha) และออเบรย์เบียร์ดสเลย์ (Aubrey Beardsley) ต่อมาในเดือนพฤษภาคมจะนำเสนอชีวิตของฟานก็อกฮ์ (Van Gogh) ศิลปินผู้มีความสามารถ และปัญหาสำหรับนิทรรศการที่ 3 ในปี 2020 นั้นจะนำเสนอศิลปินคนใดต้องติดตามกันต่อไป
MODA Space
แกลเลอรีในส่วนที่สองจะมอบประสบการณ์ให้กับผู้ชม (รวมถึงเอ็ฟเฟ็กต์สามมิติ) และงานอินสตอลเลชั่น (Installation) แบบดิจิทัลอินเตอร์แอ็คทีฟ ผู้ชมไม่เพียงแต่ดำดิ่งไปสู่โลกแห่งศิลปะดิจิทัลที่สร้างสรรค์ขึ้น โดยศิลปินงานดิจิทัลร่วมสมัยจากประเทศต่างๆ และสามารถมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผลงานได้อีกด้วย ความเป็นไปได้ที่เนรมิตโลกแห่งความแฟนตาซีขึ้นมานั้นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ ซึ่งเราต้องการให้พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับนิทรรศการ และสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงนิทรรศการ
MODA VR Studio
แกลเลอรีในส่วนที่สามนำเสนอโลกเสมือนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งผู้ชมต้องใช้อุปกรณ์ในการชมและฟังเพื่อดื่มด่ำไปกับโลกแห่งสามมิติ และสามารถเนรมิตโลกเสมือนขึ้นมาได้ด้วยตนเองด้วยเทคโนโลยี
บริษัท Vision Multimedia Projects ผู้อยู่เบื้องหลังนิทรรศการ ‘From Monet to Kandinsky’ และ ‘Italian Renaissance’ จะสร้างสรรค์นิทรรศการดิจิทัลซึ่งแบ่งออกเป็นสามโซนที่ MODA Bangkok
โอเลก มารินิน (Oleg Marinin) อธิบายว่า “การทำงานเริ่มต้นจากการหาข้อมูลว่าเหล่าคนรักศิลปะสนใจในอะไรมากที่สุดจากนั้นจึงร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมที่สุดจากทั่วโลก เพื่อนำเสนอผลงานศิลปะเหล่านี้ในรูปแบบดิจิทัล ต่อมาเราจึงสร้างเรื่องราวขึ้น และไล่ลำดับการนำเสนอผลงานตามประเภทของศิลปะ และศิลปินภาพเคลื่อนไหวภูกนำเสนอไปพร้อมกับดนตรีเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับชม”
“ทีมผู้เชี่ยวชาญมีส่วนรับผิดชอบงานโปรดักชั่นในด้านต่างๆ บางคนดูแลบริบทด้านวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ในขณะที่บางคนผสมผสานงานศิลป์เข้ากับบทเพลงในรูปแบบดิจิทัล บางครั้งเราได้ให้นักดนตรีประพันธ์เพลงขึ้นมาใหม่โดยปกติแล้วเราใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือนเพื่อสร้างนิทรรศการใหม่ขึ้นมา”
SOMETHING NOUVEAU
นิทรรศการแรกในปี 2020 นำเสนอผ่านธีม Something Nouveau เพื่อเฉลิมฉลองยุคทองแห่งศิลปะ ดีไซน์ และสถาปัตยกรรมในยุคอาร์ตนูโว (ปีค.ศ. 1890-ค.ศ. 1910) ผลงานของกุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) อัลโฟนส์ มูคา (Alphonse Mucha) และออเบรย์ เบียร์ดสเลย์ (Aubrey Beardsley) ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดี ผลงานยังคงได้รับการประมูลไปในราคาที่สูงลิ่ว เช่น ผลงาน The Woman in Gold ได้รับการยกย่อง และสื่อถึงความเป็นคลิมท์ได้อย่างดี โอเลก มารินิน กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ธีมแรกมีความท้าทาย คือ ทั้งสามศิลปินอยู่ในศิลปะลัทธิเดียวกัน แต่ผลงานค่อนข้างต่างกัน จึงเป็นความท้าทายที่จะผนวกผลงานของพวกเขาให้กลายเป็นเรื่องเดียวกันได้เพื่อนำเสนอศิลปะลัทธินี้”
ศิลปะอาร์ตนูโวเป็นหนึ่งในศิลปะที่มีสุนทรียะอันทันสมัยมากที่สุด เป็นที่ยอมรับว่าศิลปะลัทธินี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของศิลปะ สถาปัตยกรรม และงานดีไซน์ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ พุ่งสู่จุดสูงสุดในช่วงปีค.ศ. 1900 ความงดงาม และสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ยังคงได้รับการชื่นชมไปทั่วโลก อันเนื่องมาจากอาร์ตนูโวได้รับการพัฒนาในที่ต่างๆ พร้อมๆ กัน จึงมีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละที่
นิทรรศการมัลติมีเดีย Something Nouveau. Klimt, Mucha, Beardsley ประกอบด้วยเรื่องราว3 เรื่องที่อุทิศให้กับสามมาสเตอร์ผู้มีสไตล์ ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่สวยงามกว่า 500 ภาพถูกฉายด้วยโปรเจ็กเตอร์ลงบนจอขนาดใหญ่ที่จัดวางไว้ในมุมต่างๆ ของห้องมัลติมีเดียที่กว้างขวาง ผู้ชมสามารถชมรายละเอียดเล็กๆ ที่มีความสำคัญอย่างมากและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ซึ่งแฝงอยู่ในงานอาร์ตนูโว
ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดล้ำไปกับ MODA พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลแห่งแรกของกรุงเทพที่ชั้น 2 ของริเวอร์ซิตี้แบงค็อกเปิดตัวด้วยธีมแรก Something Nouveau ในวันที่ 15 มกราคมถึงวันที่ 16 เมษายน 2020 เพื่อให้เหล่าอาร์ตเลิฟเวอร์สได้ใกล้ชิดกับศิลปะอาร์ตนูโวของศิลปินชื่อดังนำโดยกุสตาฟคลิมท์, อัลโฟนมูคา และออร์เบรย์เบียร์ดสเลย์ ซื้อบัตร Early Bird ได้ทางเว็บไซต์ Zipevent จนถึงวันที่ 14 มกราคม 2563
ราคาบัตร Early Bird (ถึงวันที่ 14 มกราคม) สำหรับผู้ใหญ่ 300 บาท
ราคาบัตร Early Bird (ถึงวันที่ 14 มกราคม) สำหรับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป และนักเรียน / นักศึกษาจนถึงระดับปริญญาตรี 200 บาท
บัตรราคาปกติ (ตั้งแต่ 15 มกราคม ถึง 16 เมษายน) สำหรับผู้ใหญ่ 350 บาท
บัตรราคาปกติ (ตั้งแต่ 15 มกราคม ถึง 16 เมษายน) สำหรับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป และนักเรียน / นักศึกษาจนถึงระดับปริญญาตรี 250 บาท
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)
หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
Instagram: @Zipevent
Website: www.zipeventapp.com
Twitter: @Zipevent
Facebook: @Zipevent