ขอเกริ่นก่อนว่า การนอนคือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์ เพราะช่วงกลางคืนที่นอนนั้น
Growth Hormone จะหลั่งออกมาอย่างเต็มที่ในช่วงเวลา 22:00 – 24:00 น. ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมและสร้างเซลล์ที่สึกหรอในร่างกาย ทั้งยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อและอวัยวะทุกส่วนของร่างกายได้ฟื้นฟูและพักผ่อน ที่สำคัญเราควรนอนหลับอย่างสนิทให้ต่อเนื่องกันอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายได้พร้อมรับสำหรับวันต่อไป
นอกจากนี้ที่นอน ยังมีผลต่อกระดูกสันหลัง หากนอนเตียงที่ไม่เหมาะกับร่างกาย หรือท่านอนเราไม่ดี อาจส่งผลทำให้กระดูกสันหลังเลื่อนออกจากแนวระนาบ ผิดรูปและคดงอได้ และยิ่งถ้าเลือกเตียงไม่ดี อาจทำให้เราไม่สามารถนอนหลับสนิทได้ บางคนนอนไม่สบายสะดุ้งตื่นตลอดคือ หรือตื่นมารู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทั้งนี้ถ้าหากเรานอนน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อคืนจะมีความเสี่ยงอายุสั้น หากนอนน้อยเป็นระยะเวลานานติดต่อกันนานๆ จะทำให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือด เมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย
วันนี้เราเลยรวบรวมประเภทของที่นอนให้ทุกคนสามารถนำไปเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทมากๆ ซึ่งแต่ละเตียง แต่ละที่นอนต่างมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ซึ่งแบ่งได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้
เตียงนอนยางพารา (Latex Mattress)
ข้อดี
เป็นที่นอนจากวัสดุธรรมชาติ ไม่มีสารสังเคราะห์ที่อาจทำให้เกิดภูมิแพ้ มีผิวสัมผัสที่นุ่มละเอียด และยืดหยุ่นมาก ใช้งานได้ยาวนาน คงทน สามารถคงรูปทรงได้ดี ไม่ยุบง่าย ดูแลรักษาได้ง่าย รองรับกับน้ำหนักมากๆ ได้ นอกจากนี้ยังรองรับสรีระ ของร่างกายแต่ละคนได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือน จากการนอนดิ้น การนอนพลิกตัวไปมาได้ด้วย ที่สำคัญคือไม่เก็บความชื้น รวมถึงฝุ่นละอองต่างๆ ด้วย
ข้อเสีย
ในช่วงแรกๆ ที่ใช้งาน อาจมีกลิ่นยาง และมีราคาค่อนข้างแพง เพราะมีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง แถมยังมีน้ำหนักมากกว่า ที่นอนที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติอื่นๆ อย่างเช่น นุ่น หรือ ใยมะพร้าว
เตียงนอนนุ่น (Kapok Mattress)
แน่นอนว่าที่นอนนุ่น จะต้องเป็นผลผลิตที่มาจาก ต้นนุ่น (Kapok หรือ Ceiba Pentandra) ซึ่งเป็น พืชผลชนิดไม้ยืนต้น ให้ผลผลิตเป็นเส้นใย ที่หลายคนมักเอาใยนุ่นมาทำเป็นเบาะ ที่นอน หมอน ต่างๆ ดังนั้นที่นอนนุ่นจึงถูกจัดเป็นที่นอนที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาตินั่นเอง
ข้อดี
มีราคาถูก น้ำหนักเบา สามารถยกวาง ขนย้ายได้ง่าย หากต้องการนำมาผึ่งแดดก็สามารถนำมาตากด้วยตนเองได้เลย แถมตอนนอนยังทำให้รู้สึกเย็นสบาย มีอายุการใช้งานได้มากเป็น 10 ปี ใช้ไปสักพักประมาณ 2-3 สัปดาห์ นุ่นจะยุบลงมาปรับรองรับกับสรีระการนอนของเรา
ข้อเสีย
ที่นอนนุ่น จะถูกออกแบบให้เป็นที่นอนขนาดเล็ก หรือประเภทเตียงเดี่ยว (Single Bed) ขนาดประมาณ 3-4 ฟุตเท่านั้น หากต้องการใช้ให้เป็นเตียงใหญ่ ต้องนำ 3 ลูกมาต่อกัน สะสมความร้อนได้ง่าย ไม่เหมาะสำหรับคนขี้ร้อน และแอบสะสมฝุ่นละออง ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ด้วยเพราะรองรับสรีระให้เหมาะกับคนนอน จึงทำให้เสียการคงรูปทรงได้งง่าย มีอายุการใช้งานได้ไม่ยาวนาน เสียการคงรูปทรงได้ง่าย
เตียงนอนใยมะพร้าว (Coconut Fiber Mattress)
ประเภทนี้เป็นที่นอนที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ เพราะเป็นที่นอนที่ใช้วัตถุดิบของเส้นใยมะพร้าวมาแปรรูปให้เป็นแผ่น และผ่านกรรมวิธีการอัดแน่น จนกลายเป็นรูปทรงของที่นอน เป็นเตียง
ข้อดี
มีความแข็งกระด้างค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนเตียงที่มีความแข็งในระดับหนึ่ง หรือคนที่ต้องการเตียงที่ช่วยลดปัญหาการปวดหลัง จากการนอนบนที่นอนนิ่มๆ ยวบๆ มานาน น้ำหนักเบากว่าแบบยางพารา และ สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
ข้อเสีย
เมื่อเราใช้จนเสื่อมสภาพแล้ว จะเกิดการเปื่อยยุ่ย ก่อให้เกิดขุย และเป็นไรฝุ่น ซึ่งส่งผลเสียโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ
เตียงนอนฟองน้ำ (Sponge Mattress)
เป็นที่นอนที่ใช้วัสดุสังเคราะห์ ทางวิทยาศาสตร์ โดยการใช้เศษฟองน้ำชิ้นเล็กๆ นำมาบีบอัดด้วยเครื่องอัดแรงดันสูง ตามด้วยกระบวนการผสมทางเคมี แล้วจึงนำมาขึ้นรูปทรงตามขนาดตามที่ต้องการ
ข้อดี
ราคาถูก เหมาะกับการใช้ตามหอพัก ให้ความรู้สึกที่นุ่ม คล้ายกับที่นอนที่ทำจากวัสดุยางพารา มีน้ำหนักเบา สามารถยก และเคลื่อนย้ายได้ง่าย มีความยืดหยุ่น และสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี มีความทนทาน ใช้งานได้นาน แต่ไม่เท่าแบบยางพารา
ข้อเสีย
วัสดุฟองน้ำสังเคราะห์ที่ไม่ได้คุณภาพ เมื่อใช้เป็นเวลานานจะเกิดการยุบตัวในลักษณะที่เป็นแอ่ง ทำให้มีอาการปวดหลังได้ ดังนั้นหลายคนจึงนิยมนำไปผสมกับวัสดุใยมะพร้าว หรือ ที่เรียกกันว่า ที่นอนฟองน้ำใยมะพร้าว เพื่อให้มีความแข็งมากขึ้น และ เกิดการยุบตัวที่น้อยลง สามารถรองรับน้ำหนักและสรีระร่างกายได้ดี ในราคาที่ถูกกว่า แต่ที่นอนชนิดนี้มีระบบการระบายอากาศที่ไม่ดีนัก ทำให้เกิดกลิ่นอับได้ง่าย แถมยังเกิดฝุ่นละอองสะสมบนที่นอนได้อีก
เตียงนอนสปริง (Spring Mattress)
จัดอยู่ในประเภทของที่นอน ที่มีการผสมผสานระหว่างวัสดุธรรมชาติ วัสดุสังเคราะห์ และ เทคโนโลยีรองรับน้ำหนัก กระจายน้ำหนัก รวมเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้ ที่นอนสปริง เป็นที่นอนที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายปี และมีความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะตามโรงแรม รีสอร์ทต่างๆ
ข้อดี
ที่นอนสปริงจะเป็นที่นอนที่ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกที่เย็นสบาย และมีความหนามากกว่าที่นอนประเภทอื่นๆ เนื่องจากต้องมีการใส่ตัวสปริงเข้าไปด้านใน เพื่อรับน้ำหนัก และ ดูดซับแรงกด แรงกระแทกต่างๆ ให้มีความยืดหยุ่น และสามารถคืนตัวได้ดี ทำให้น้ำหนักของร่างกาย ได้กระจายออกไม่ให้เกิดแรงกดทับของสรีระส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป โดยเฉพาะคนที่ชอบนอนตะแคง จะช่วยลดการกดทับของไหล่ และสะโพกได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
เมื่อใช้เป็นเวลานานๆ เมื่อเกิดการเสื่อมของตัวสปริง เวลานอนขยับ หรือ พลิกตัว จะเกิดการเสียดสีของตัวสปริง ทำให้มีเสียงดังรบกวนขณะนอนหลับ
และนี่ก็คือ ข้อมูลบางส่วนที่เรานำมาให้ผู้อ่านได้ใช้เป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกซื้อที่นอนให้ตรงกับความต้องการ และสรีระของตนเอง แต่หากอยากรู้ หรืออยากลองของจริง เราขอเเนะนำให้ไปที่งาน Central Bed & Rest Fair ในวันที่ 6 – 19 กันยายน 2562 ณ เซ็นทรัลพลาซา บางนา
งานนี้จะเต็มไปด้วยไอเทมเครื่องนอนคุณภาพ มาให้ทดลอง และเลือกซื้อกัน โดยสามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมข้อเสนอสุดคุ้มจากเครื่องนอนจากแบรนด์ดังที่ลดราคาสูงสุดถึง 70% !! และส่วนลดเพิ่มได้อีกสำหรับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ คุ้มและครบขนาดนี้ ห้ามพลาด!
Central Bed & Rest Fair
ขอบคุณข้อมูลจาก thanop.com
สามารถค้นหางานอีเว้นท์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่
Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/%40khj7199c
Instagram: www.instagram.com/zipevent
Website: www.zipeventapp.com
Twitter: www.twitter.com/zipeventapp
Facebook: www.facebook.com/zipevent
