เสียงเพลงกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถเชื่อมต่อ และดึงอารมณ์กับความรู้สึกของคนได้ แถมยังสามารถส่งผลต่อความอยากซื้อสินค้าได้อีกด้วย ซึ่งมีนักวิจัยหลายคนได้เข้ามาทำการวิจัยหลากหลายเกี่ยวกับเสียงเพลง พบว่า ผู้บริโภคนั้นไม่ได้ถูกโน้มน้าวให้บริโภคสินค้าจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น แต่จากสิ่งที่ได้ยินด้วย!!

เช่น มีนักวิจัยทดลองเลือกใช้วิธีเปิดเพลงที่มีความช้าเร็วต่างกัน แนวเพลงก็ต่างกัน เพื่อทดสอบเเละเก็บข้อมูลยอดขายสินค้า และนำข้อมูลนั้นกลับมาตีให้เห็นชัดๆ ว่า สไตล์เพลง และจังหวะความเร็ว มีผลต่อการกระตุ้นยอดขายได้จริง!

เพลงสามารถปรับสมดุลจิตใจ

แต่หากมองถึงหลักวิทยาศาสตร์แล้ว เสียงเพลงเป็นการบำบัดอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยปรับสภาพสมดุลจิตใจให้มีความสมดุลอีกครั้ง ทั้งยังช่วยให้มีสมาธิทำสิ่งที่ต้องโฟกัสตรงนั้นได้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ! บทเพลงนั้นส่งผลโดยตรงกับสภาวะทางจิตใจ เมื่อสภาวะจิตใจมีความสมบูรณ์แข็งแรง ร่างกายก็จะตอบสนองต่อเสียงเพลงนั้น ทำให้มีการทำงานที่ดีขึ้นมีความคิดที่ว่องไวขึ้นนั่นเอง

เพลงเป็นตัวช่วยให้ความอยากซื้อมีเพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งในปัจจุบันนี้ เสียงเพลงได้ผ่านการผลิตที่ใช้เครื่องดนตรีหลากหลายชนิด และผลิตอย่างต่อเนื่องได้หลากหลายสไตล์ ที่มากไปกว่านั้นคือ ทำให้เราเห็นได้เลยว่า คนในยุคปัจจุบัน มีรสนิยมที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะ เสียงที่มีความแตกต่างกันนั้นย่อมส่งผลต่อการตีความหมายของสินค้านั้น ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปด้วย

ดังนั้นเสียงอันไพเราะและตรงกับสไตล์กับผู้บริโภค ผู้บริโภคก็จะรู้สึกคุ้นหูและดูเหมือนจะร้องตามได้ทั้งๆ ที่อาจไม่เคยได้ยินเพลงนี้มาก่อนด้วยซ้ำ สิ่งนี้จะสร้างความเคลิ้มตามและรวมถึงสามารถมีอารมณ์ร่วมกับบทเพลงไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อผู้บริโภคพึงพอใจ จะยิ่งทำให้พวกเขาสามารถอยู่ในร้านนานขึ้น และจับจ่ายได้มากขึ้น

วิเคราะห์และเลือกสไตล์เพลงให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

สิ่งสำคัญที่สุด!! คือเราต้องวิเคราะห์ และกำหนดกลุ่มเป้าหมาย รู้จักแบรนด์ของตน หรือทำความเข้าใจกับ positioning ของเเบรนด์ตนให้ถ่องแท้เสียก่อน เพราะความพึงพอใจนี้ ก็ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และวัฒนธรรมความชอบของลูกค้าเหล่านั้นด้วย

หากเป็นร้านเสื้อผ้าสไตล์ ‘มินิมอล’ จะต้องเปิดเพลงแบบไหนดีนะ?

เมื่อเปิดเพื่อดึงใจกลุ่มเป้าหมายแล้ว ก็ต้องเปิดเพลงให้เข้ากับบรรยากาศในร้าน ตัวสินค้าและบริการด้วย เพราะฉะนั้น นี่คือวันดีที่ Zipevent รวม 12 เพลง เพลย์ลิสต์แบบฟีลกู้ด เอาใจสายมินิมอล ที่ร้านเสื้อผ้า หรือคาเฟ่สไตล์นี้ต้องเปิด!!

1.Can I Have The Day With You – Sam Ock ft Michelle

2.Just Like The Movies – Kristian Lloyd

3.When you say nothing at all – Endless Summer

4. Albert Posis – Serendipity

5.JDS(Fantasy) – Finding Hope

6.How Deep is Your Love – Bee Gees

7.Can’t Take My Eyes Off You – Frankie Valli x Lauryn Hill (Joseph Vincent Cover)

8.Chivalry Is dead – Trevor Wasley

9.I Like U – Jereena Montemayor

10.slchld – two faced

11.Bright Blue Skies – Mitch James

12.uwu – chevy

และนี่ก็คือ 12 เพลงที่เราเลือกมาให้ เชื่อเถอะว่า โดนใจสาวๆ สายมินิมอลแน่นอน! สำหรับใครที่มีเพลงที่ชอบนอกเหนือจากนี้ คอมเม้นต์แนะนำเพลงกันได้เลยจ้า!!!


สามารถค้นหางานอีเว้นท์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่

Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/%40khj7199c

Instagram: www.instagram.com/zipevent

Website: www.zipeventapp.com

Twitter: www.twitter.com/zipeventapp

Facebook: www.facebook.com/zipevent

Comments

comments

Author