ใครจะรู้ว่า…การผันเสียงวรรณยุกต์ของ ‘ลิโด โด่ โด้ โด๊ โด๋’ จะมีความหมายมากมายขนาดนี้
การเรียงตัวกันของตัวอักษรและวรรณยุกต์ทั้ง 5 ตัวนั้น หากให้วงตัวที่อยู่ตรงกลาง แน่นอนว่าต้องเป็นคำที่ 3
‘โด้’
และนี่ก็คือที่มาของชื่อ ‘ลิโด’ ได้ผันเปลี่ยนมาเป็นวรรณยุกต์ตำแหน่งกลาง คือ ‘ลิโด้’ ที่สามารถสื่อความหมายมากมายอย่างตรงตัว โดย PMCU และ กลุ่ม Apex ได้ร่วมกันเนรมิตรสถานที่แห่งนี้จนกลายมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางของความฝัน ที่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ หรือเพศไหน ก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ตรงนี้ในการไล่หาฝันได้อย่างเท่าเทียมเป็นกลาง เชื่อมโยงคนทุกกลุ่มเข้าไว้ด้วยกันอย่างไม่ปิดกั้น ทั้งยังปรับปรุงตกแต่งให้สวยงาม และมีประโยชน์ใช้สอยที่ครบครันต่อทุกความฝันได้มากยิ่งขึ้นภายใต้ ‘ความคงเดิม’
‘พวกเขาได้เก็บความคงเดิมไว้ เพื่อแสดงความเคารพสถานที่และสิ่งที่ผู้ก่อตั้งเดิมได้สร้างขึ้นมา พร้อมกับความทรงจำกว่า 5 ทศวรรษ ที่ทุกคนจะไม่มีวันลบเลือน ‘
50 ปีที่ผ่านมา กับ ลิโด
ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ผู้คนสมัยนั้นคุยทางไกลกันผ่านจดหมาย ความรัก และการจีบกันดูเป็นเรื่องการรอคอยที่แสนจะโรแมนติก ความรักและการใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับเพื่อน ครอบครัว คนรัก ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เทคโนโลยียังไม่ทันสมัยนัก การดูเทปบันทึกต่างๆ ผ่านทางโทรทัศน์ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกบ้านจะมี
และเมื่อ ‘ลิโด’ ถือกำเนิดขึ้นกับภาพยนตร์เรื่องแรก “ศึกเซบาสเตียน (Games For San Sebastian)” ในวันที่ 27 มิถุนายน 2511 สถานที่แห่งนี้ได้ย่นระยะความห่างของความรักให้ใกล้ขึ้น พร้อมๆ กับหลอมรวมความแตกต่างของผู้คน ให้หันมาสนใจในสิ่งเดียวกัน อยู่รวมกัน เพื่อดูหนังเรื่องเดียวกัน จนรอบฉายวันนั้นสามารถเรียกคนดูให้เข้ามาซื้อตั๋วหมดเกลี้ยง ผู้คนหลากหลายต่างหลั่งไหลเข้ามาในโรงหนังอย่างแน่นขนัดเต็มความจุ 1,000 ที่นั่ง
จนกระทั่งไฟไหม้โรงภาพยนตร์ ลิโด ในปี 2536 ทำให้ลิโดถูกปิดปรับปรุง และสร้างขึ้นใหม่แบ่งขนาดโรงใหญ่ให้กลายเป็น 3 โรงเล็กๆ และปรับปรุงด้านล่างของโรงภาพยนตร์ให้เป็นพื้นที่ของการช้อปปิ้งเกี่ยวกับแฟชั่นที่มาแรงมากๆ ในขณะนั้น ไม่ว่าจะร้านเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับแฟชั่นต่างๆ ทุกร้านเต็มไปด้วยหนุ่มสาวทั้งหลาย แถมยังมีผู้คนที่มีความฝันพากันเข้ามาเปิดแสดง และแจ้งเกิดได้ด้วยสถานที่แห่งนี้ จนลิโดได้กลายเป็นศูนย์รวมหนุ่มสาวสายฝัน และสายแฟที่นิยมสูงสุดในขณะนั้น
แต่งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ลิโดจำเป็นต้องยุติการให้บริการ ด้วยเหตุผลบางประการ ซึ่งทุกคนต่างเข้ามาร่วมกิจกรรม ‘Farewell to Our Theater’
โดยจัดฉายภาพยนตร์ 2 เรื่อง ได้แก่ Kids on the Slope และ Tonight, at Romance Theater ซึ่งมีสุภาพบุรุษสูทเหลืองรอต้อนรับ และรอส่งกลับเมื่อหนังรอบปัจฉิมทัศน์จบลง เป็นการอำลาโรงภาพยนตร์ลิโด ที่ยืนหยัดอยู่คู่กับการไหลเวียนเปลี่ยนเเปลงของประเทศมามากกว่า 50 ปี
“ลิโด” to “ลิโด้”
PMCU และ กลุ่ม Apex ได้จับมือกันร่วมพัฒนา ปรับปรุงที่แห่งนี้ให้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ในชื่อ “ลิโด้” โดยเน้นจุดยืนที่สร้างสรรค์ ทำให้ที่นี่เป็นที่ของนักตามหาฝันได้มาโชว์พลัง และพรสวรรค์ของตนเอง โดยไม่มีสิ่งใดมาปิดกั้น ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ย่นระยะความห่าง และช่องว่างของคนได้ดั่งเดิม ยังคงมีโรงหนังเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมไปด้วยพื้นที่รูปแบบใหม่ ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทุกคนสามารถปลดปล่อยพลังแห่งฝันที่มีอยู่ในตัวเอง ได้กว้าง และมากยิ่งขึ้น!
โดยโรงหนัง 3 โรงนั้น ได้ถูกรีโนเวทเปลี่ยนแปลงให้เป็น…
โรงที่ 1 โรงภาพยนตร์
เป็นโรงที่แสดงภาพยนตร์นอกกระแส สารคดี ฟิกชั่นดีๆ มีคุณภาพ ไม่ว่าจะมาจากผู้กำกับมือดีมากชื่อเสียง หรือจะหนังนักศึกษาที่ต้องการมาบอกเล่ามุมมองของโลกผ่านตัวหนัง ก็สามารถเข้ามาจัดฉายได้
โดยการซื้อขายตั๋วดูหนัง ก็อำนวยความสะดวกให้สามารถซื้อบัตรออนไลน์ตามยุคสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไป พร้อมๆ กับตู้ขายตั๋วสุดเก๋ที่ตั้งตะหง่านรอจำหน่ายตั๋วถึงหน้าโรงภาพยนตร์ และตอนนี้มีหนังมาเข้าคิวรอฉายแล้ว เข้าไปดูรายละเอียดและซื้อบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/g/lido-connect
โรงที่ 2 Live House
โรงนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็น Live House พื้นที่ให้ชาวดนตรี ค่ายเพลงทุกสไตล์ หรือละครเวทีจากหลากหลายสำนัก ไม่ว่าจะมือดี หรือนักศึกษาก็สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อ เปิดโอกาสให้ผลงานของตน เป็นที่ถูกจับตามองของเหล่าแมวมอง หรือผู้คนที่หลากหลายได้
โรงที่ 3 Blackbox
ถูกเปลี่ยนให้เป็น Blackbox สำหรับคนที่ต้องการแสดงละครเวที สามารถจัดแสดงได้ทุกรูปแบบตามที่คณะของตนต้องการ รวมถึงสามารถจัดงานแสดง งานอีเว้นท์ งานปาร์ตี้ได้ทุกประเภท! เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ของ Art Innovation ทุกรูปแบบเลย
พื้นที่จัดแสดงอื่นๆ
นอกจากนี้พื้นที่ว่างใต้โรงภาพยนตร์นั้น ได้ถูกรังสรรค์ให้เป็นพื้นที่สำหรับเปิดหมวก คือจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ได้ ซึ่งพื้นที่รอบๆ ทั้งสองชั้นจะถูกห้อมล้อมไปด้วยร้านขายสินค้าต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับแฟชั่นที่หลากหลายตามความเปิดกว้างของยุคสมัย ทั้งยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายกล้องฟิล์ม ร้านล้างฟิล์ม รวมถึง ศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ ที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาชมงานแสดงเปิดหมวก พร้อมๆ กับการเดินช้อปปิ้งได้
ห้องน้ำ
ไม่พูดถึงไม่ได้! ห้องน้ำของลิโด้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปลดปล่อยทุกข์หนัก ทุกข์เบา ที่ขึ้นชื่อว่าไม่น่าเข้าเลย! เพราะทุกครั้งที่กล่าวถึง ทุกคนต่างรู้ใจกัน หากทนไหว ก็ยอมแบกท้องหนักๆ ไปเข้าที่อื่นดีกว่า แต่รู้ไหม? ว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว…
ห้องน้ำชาย และหญิงที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่นั้น นอกจากความสะอาดแล้ว การตกแต่งยังให้อารมณ์แบบ เรโทร 60s นิดๆ กึ่งดั้งเดิมเพิ่มเติมคือผสานเข้ากับกระแสสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่า หากได้ไปเยือนลิโด้ตอนนี้ ห้องน้ำจะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องชักภาพสักอัลบั้มเก็บไว้ลงโซเชียลได้ยันปีหน้าเลยล่ะ (ล้อเล่นหน่า)
สำหรับเด็กรุ่นใหม่ หรือโจ๋รุ่นเก่าที่แบกความฝันทั้งหมดบนหลังน้อยๆ ไว้ จงปลดปล่อยมัน! ค่อยๆ ปลดปล่อยทีละนิด ในพื้นที่ที่เปิดกว้างให้ทุกคนฝัน ‘ลิโด้’ เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ และพื้นที่จัดแสดง จงอย่าอาย เพราะที่นี่ได้รวมผู้คนต่างความฝันเอาไว้ด้วยกัน ไม่แน่นะ คุณเองอาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนที่แอบดูคุณอยู่หลังเสาต้นนั้นก็ได้!
หรือหากผู้จัดงานท่านใดสนใจอยากจัดงานที่ลิโด้ก็สามารถติดต่อ Zipevent เข้ามาได้เลย โทร: 02-0385150 หรือ อีเมล sales@zipeventapp.com
ไม่ว่าอนาคต โลกใบนี้จะหมุนไปในทิศทางไหน จงเชื่อมั่นในความฝัน และดันมันให้เป็นแผนที่สู่ความสุขได้
ใน ‘ลิโด้’ แห่งนี้
ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย
Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)
หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
Instagram: @Zipevent
Website: www.zipeventapp.com
Twitter: @Zipevent
Facebook: @Zipevent