ย่านสุขุมวิทเป็นอีกย่านหนึ่งที่มีสถานที่หลากหลายแบบให้เราไปเดินเล่น ถ่ายรูป พักผ่อน ในวันหยุดกับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ชิคๆ แกลอรี่ศิลปะต่างๆ รวมไปถึง คอมมูนิตี้มอลล์อย่าง K Village ที่อาจจะคุ้นหูกันอยู่บ้าง เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังมีงานอีเว้นท์มาร์เก็ตเก๋ๆ จัดขึ้นอยู่เป็นประจำด้วย ซึ่งเราชาว ZipEvent ก็ไม่พลาดที่จะไปเดินเล่นกันอยู่แล้ว

เดินไปเดินมา ท้องก็คงจะร้องใช่มั้ยล่ะ อยากจะบอกทุกคนว่าที่ K Village เขามีร้านอาหารเยอะมากกกกก ทุกประเภท ทุกสไตล์เลย หิวๆ ก็สามารถเข้าไปนั่งทานกันได้ เราเลยถือโอกาสรวบรวม 7 ร้านอาหารน่าไปลองมาฝาก เผื่อใครที่คิดไม่ออกว่าจะเข้าร้านไหนดี ลองดูกันได้เลยว่าจะมีร้านไหนถูกใจใครบ้างหรือเปล่า : )

Roi Bistro by เล่นเส้น

เวลาทำการ : จ-พฤ 11.00 – 21.00 น. ศ-ส 11.00 – 22.00 น. ชั้น 2 K Village

ร้านบรรยากาศสบายๆ แต่งด้วยโทนสีฟ้าแซมเหลือง บวกกับพื้นไม้ที่ตั้งใจอยากให้ลูกค้าได้บรรยากาศเหมือนทานข้าวที่บ้านกับครอบครัว Feel Like Home สุดๆ ! หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อร้านเล่นเส้นมาบ้างแล้ว ซึ่ง Roi Bistro ก็ได้ทำแยกต่อมาจากเล่นเส้นนี่แหละ โดยที่ร้านนี้จะครอบคลุมอาหารทุกประเภทมากกว่า อยากให้เราได้กินอาหารทุกแบบทุกสไตล์นั่นเอง เผื่อแต่ละคนที่มาด้วยกันอยากทานอาหารหลากหลาย มาร้านนี้รอบเดียวได้กลับไปครบทุกอย่างเล้ยยยยย

Roasted Baby Chicken 

จานนี้ถือว่าเป็นจานเด็ดประจำร้านเลย เพราะด้วยตัวน้องไก่เนี่ยแหละ ที่ต้องผ่านขั้นตอนถึง 3 วัน ก่อนที่จะออกมาหน้าตาสวย อร่อย พร้อมรับประทานขนาดนี้ เสิร์ฟพร้อมกับตัวมันฝรั่งอบและซอสโรติสเซอรีที่เป็นรสชาติเฉพาะของเมนูน้องไก่ตัวนี้เลยจ้า ทานควบคู่ไปด้วยกันจะกลมกล่อมากๆ (650 บาท)

ส่วนเมนูแนะนำอื่นๆ ก็มีทั้ง Quinoa Salad & Grilled Salmon (340 บาท) Apple Lemon Porkchop (340 บาท) Shrimp Mousse Pasta (340 บาท) อาหารไทยๆ ก็มีนะ ทั้ง Papaya Pad Thai ผัดไทมะละกอ (170 บาท) หรือ ก๋วยเตี๋ยวเรือเล่นเส้น ที่คุ้นเคยกันดี (180 บาท)

ส่วนของหวานที่ Roi Bistro ก็มีความยิ่งใหญ่อลังการและไม่เหมือนใคร อย่าง Red Pear ลูกแพร์อบในแผ่นแป้งฟิลโล่ (240 บาท) และ Passion Souffle ซูเฟล่เสาวรสเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมเสาวรส (250 บาท)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/roibistro

Kagonoya Premium Shabu

เวลาทำการ : จ-อา 11.00-22.00 น. ชั้น 2 K Village

เราจะเห็นว่าหน้าร้านถูกตกแต่งให้สะดุดตาโดยมีต้นซากุระอยู่ข้างหน้า ต้อนรับความเป็นญี่ปุ่นมากๆ สำหรับตัวบุฟเฟต์ชาบูนั้นจะมีน้ำซุปให้เลือกสรรถึง 6 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็นซุปคอมบุ ซุปโซบะ โชยุ ซุปทงคัตสึ ซุปสุกี้ยากี้ ซุปต้มยำกุ้งสไตล์ไทยๆ และ Special Soup ที่จะมีไม่เหมือนกันในแต่ละเดือน (ต้องคอยลุ้นกันนะ)

Kagonoya Beef & Pork Shabu Shabu (1,199.-)

ราคาก็มีหลายหลายไซส์ให้ได้เลือกตามใจชอบ โดยทางร้านจะแบ่งเป็น3ชุดหลักๆ ก็คือ 429.- 469.- และ 1,199.- + ซึ่งเซ็ตนี้นั้นเราจะได้ของทานเล่นทุกประเภทเลย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เช่น สลัด ซูชิ และ Kushiage ที่เป็นของทอดเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่นอีกเพียบ!

อยากบอกว่าทีเด็ดอยู่ที่ตัวน้ำซุปแต่ละชนิดที่จะมีสไตล์การกินคู่กับน้ำจิ้มที่แตกต่างกันไป ถ้าสนใจก็ชวนเพื่อนๆ ไปทานได้เลย! Kagonoya ร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่น สำหรับครอบครัว และผองเพื่อนเพื่อให้มาฉลองความสนุกกับการรับประทานชาบู ที่ไม่ได้สนุกแค่อย่างเดียว แต่ได้รับความอิ่มกลับบ้านไปด้วยจ้า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/kagonoya

Watercress (วอเตอร์เครส)

เวลาทำการ : จ-อา 11.30 – 21.30 น. ชั้น 1 K Village

ร้านอาหารไทยที่เน้นความออร์แกนิคทั้งหมด ทั้งส่วนผสมและเครื่องปรุงที่ไม่ใส่ผงชูรสและผงปรุงแต่ง เน้นผักและส่วนผสมของวิตามินเป็นสำคัญ บอกเลยว่าใส่ใจสุขภาพ 100% ใครที่เป็นสาย Healthy ต้องมาลองร้านนี้เลยนะ

แซลมอนย่างยำส้มโอหอมเจียว (350 บาท)

กุ้งแม่น้ำยักษ์ย่างน้ำปลา (490 – 590 บาท)

นอกจากนั้นเมนูอื่นๆ ที่ทางร้านแนะนำก็จะมี ตำมะม่วงกะปิหวาน เสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียวดำ (150 บาท) ปูนิ่มผัดพริกขี้หนู (330 บาท) ส่วนของหวานที่แปลกตาและไม่เคยเห็นมาก่อนก็คือ กล้วยหอมย่างซอสเสาวรส (130 บาท) ที่ความหวานของกล้วยนั้นตัดได้ดีกับความเปรี้ยวของเสาวรสจริงๆ

ส่วนมาก Water Cress จะเน้นเป็นอาหารไทยที่คิดค้นเมนูและสูตรอาหารขึ้นมาเอง เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่จะใช้แต่เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่ปลอดสารเคมี ไม่ใส่ผงชูรส เน้นความเป็นธรรมชาติมากๆ ขนาดทิชชู่ในร้านยังเป็นทิชชู่ที่ไม่ได้ผ่านสารฟอกขาวด้วยนะ ออร์แกนิคสุดๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/WaterCressRestaurant

Roots

เวลาทำการ : จ-ศ 15.00 – 01.00 น. ส-อา 11.30 – 01.00 น. ชั้น 1 K Village

สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศชิลๆ สบายๆ รักธรรมชาติ สไตล์ตะวันตก จะเน้นอาหารสไตล์ยุโรป ผสมกับอาหารฟิวชั่นเล็กน้อย เราก็ขอแนะนำร้านนี้เลย เป็นร้านที่แบ่งออกเป็นสองโซน มีทั้งแบบ In door และ Out door การตกแต่งของร้านก็จะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ เหมือนกับชื่อของร้านที่มาจาก คำว่ารากไม้ (Roots) นั่นเอง Roots จะให้ฟีลกึ่งบาร์กึ่งร้านอาหาร เพราะจะมีดีเจเปิดเพลงให้ฟังด้วย (แนวเพลง Pop / Lounge / Downtempo) สามารถมานั่งฟังเพลง ดูบอล จิบเบียร์ สังสรรค์กับเพื่อนๆ ได้

สำหรับเมนูที่แนะนำก็จะเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่นจากทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก Gambas :Shrimp with Garlic (270 บาท) Salmon Steak with Dill Sause (380 บาท) และเครื่องดื่มอย่าง Mojito Cocktail ผสมแอลกอฮอล์เบาๆ จิบเพลินๆ ก็มีเช่นกัน

Turkish Chicken Kebab (280 บาท) 

ผัดกระเพราพิซซ่า (240 บาท) 

ร้านนี้ขอบอกเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากจะมานั่งชิล รับบรรยากาศเย็นๆ สบายๆ ในยามคำคื่น โดยทางร้านก็จะมีกิจกรรมเอาใจสาวๆ ในทุกวันพฤหัสด้วยนะ ซึ่งเป็นวัน “Ladie’s night” คุณผู้หญิงที่มาร้านนี้แล้วมารับประทานอาหารของทานร้านก็เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฟรีไปเล้ยย (ตั้งแต่ 20.00-24.00 น. เท่านั้น)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/rootsbangkok

Sushi Oku 

เวลาทำการ : จ-อา 11.00-22.00 น. ชั้น 1 K Village

“อาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมียมที่ราคาสามารถจับต้องได้”

ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นไปทาง Sushi Bar ตกแต่งด้วยบรรยากาศที่มีกลิ่นอายของประเทศญี่ปุ่น โดยมีต้นซากุระตั้งอยู่ตรงเกือบกึ่งกลางของร้าน รวมไปถึงตัววอลเปเปอร์ที่ติดอยู่กับผนังเป็นลวดลายภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่น นั่งทานอยู่ก็เหมือนว่าอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ

ใครที่มีโอกาสได้แวะเวียนมาทานร้านนี้ เราก็มีเมนูแนะนำมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็น สลัดปลาเงินทอด (240 บาท) Sashimi Set C (740 บาท) Sushi Set C (850 บาท) ซึ่งทั้งหมดนี้รับประกันปริมาณและคุณภาพจริงๆ

Kani Miso (330 บาท) มันปูที่นำมาย่างบนเตาญี่ปุ่น ทานคู่กับข้าวสวยก็จะเข้ากันได้ดีเลย

Santi Roll (400 บาท) ความลงตัวของตับห่านและมะม่วงน้ำดอกไม้ ม้วนโรลด้วยสาหร่ายแล้วโรยงาปิดทับ

สำหรับ Sushi Oku ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่เหมาะแก่การชวนครอบครัว เพื่อนๆ หรือคนที่รักและหลงใหลในอาหารญี่ปุ่น ที่อยากจะรับประทานอาหารที่มีความสดใหม่ อร่อย แถมยังคุ้มมากๆ อีกด้วยนะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/sushioku

Shabu Sen 

เวลาทำการ : จ-ศ 11.00 – 14.00 น. และ 17.00 – 22.30 น. (เปิดสองช่วงเวลา) 

                ส-อา และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00 – 22.30 น. ชั้น 2 K Village

ภายในร้านจะมีความโปร่ง สบายๆ ตกแต่งในรูปแบบที่เน้นสีแดงตัดกับไฟโทนส้มอ่อน ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นผสมกับประเทศจีนเล็กน้อย มีทั้งแบบโต๊ะนั่งสำหรับมาเป็นกลุ่มและแบบบาร์ให้นั่งทานคนเดียวหรือเป็นคู่ก็ได้

ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นผสมไต้หวันซึ่งมีทั้งหมูและเนื้อ สามารถเลือกได้ว่าจะทานเป็นแบบบุฟเฟ่ต์หรือ A la Carte ซึ่งสำหรับบุฟเฟ่ต์จะตกอยู่ที่หัวละ 499++ (ยังไม่รวม Vat และ Service Charge) มีน้ำซุปให้เลือกสรรถึง 4 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็น ซุปชาบูชาบู ซุปมะเขือเทศ ซุปสุกี้ญี่ปุ่น และซุปมองโกล

ซุปชาบูชาบู (ซ้าย) ซุปมะเขือเทศ (ขวา)

สามารถทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวกระเทียมก็ได้แล้วแต่คนชอบเลย แถมที่นี่ยังมีน้ำจิ้ม 3 แบบให้เลือก ทานคู่กับหมูและเนื้อก็จะได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น ใครที่สนใจก็ชวนเพื่อนๆ มาได้เลย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/Shabusen

Scoma’s Bakery & Kitchen

เวลาทำการ : จ-อา 11.00 – 22.00 น. ชั้น 2 K Village

ร้านเบเกอรี่ที่ไม่ได้มีแค่ขนมหวานแต่มีอาหารคาวด้วยนะ ! บรรยากาศสบายๆ ชิลๆ เหมาะกับการมานั่งทำงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์จะชวนคนในครอบครัวมาทานข้าวด้วยกันก็ยังได้ ร้านจะตกแต่งในสไตล์สบายๆ เน้นแต่งโทนสีเหลืองให้ดูสบายตา

เค้กมะพร้าวอ่อน (125 บาท)

ช็อกหน้านิ่ม (125 บาท)

แน่นอนว่าของขึ้นชื่อก็ต้องเป็นพวกเค้กและขนมอยู่แล้ว ซึ่งที่นี่มีเมนูเค้กหลากหลายรสชาติ แปลกตา สร้างสรรค์อยู่หลายเมนูมากๆ แต่ถ้าตัวซิกเนเจอร์เลยก็คงไม่พ้น เค้กมะพร้าวอ่อนที่ นุ่ม หอมหวาน อร่อยจนแทบจะละลายในปากเลย นอกจากนั้นก็มีเค้กช็อกโกแลต ฟัดจ์ ที่ทานคู่กับช็อกโกแลตเย็นแล้วเข้ากันดีมากๆ

ส่วนเมนูอาหารคาวที่แนะนำจากทางร้านก็จะเน้นไปทางอาหารใต้ที่วัตถุดิบแต่ละอย่างผ่านการคัดสรรมาอย่างดี อย่างเช่น ขนมจีนน้ำยาปูที่เนื้อปูหนาแน่นมาก ฟินมากๆ ตัวน้ำยาก็เข้มข้น ไม่เผ็ดจนเกินไป ทานได้ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ยำมะม่วงเบา (165 บาท) บะกุ้ดเต๋ (220 บาท) และขนมจีนน้ำยาปู (220 บาท)

ขนมจีนน้ำยาปู (220 บาท)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/Scomashop

จริงๆ แล้วที่ K Village ยังมีร้านอาหารให้เราเข้าไปลิ้มลองอีกเยอะมากกกกกก ใครที่อยากไปเห็นกับตาตัวเองก็สามารถเข้าไปเดินเล่นได้นะ อยู่ในซอย สุขุมวิท 26 ใกล้ๆ นี่เอง (BTS พร้อมพงษ์ / MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/kvillagebkk

Comments

comments

Author

You only live once