เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าในแต่ละวันที่เราลืมตาตื่นขึ้นมาใช้ชีวิต ไปทำงาน ไปเรียน กินข้าว ไปเที่ยว กลับบ้าน นอน แล้วสุดท้ายวันต่อมาก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เมื่อเป็นแบบนี้เรื่อยๆ ก็เริ่มเบื่อ แต่ถ้าสมมติว่าวันแต่ละวันมีความพิเศษอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ล่ะ ? การใช้ชีวิตในวันนั้นอาจจะน่าตื่นเต้นขึ้นมาเลยก็ได้ ! ซึ่งจริงๆ แล้ว หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่านอกจากการเฉลิมฉลองตามเทศกาลต่างๆ อย่าง ปีใหม่ สงกรานต์ คริสต์มาส วาเลนไทน์ แล้วเนี่ย ยังมีการฉลองวันแปลกๆ อยู่เพียบ เราเลยรวบรวมมาให้ดูกันว่า มีวันอะไรบ้างที่น่าสนใจซ่อนอยู่ในเดือนมกราคมนี้

11 มกราคม =  วันหัดเรียนชื่อตัวเราในรูปแบบรหัสมอร์ส

เป็นที่รู้กันว่ารหัสมอร์สถือว่าเป็นรหัสแห่งการสื่อสารที่เป็นสากลและโด่งดังมากๆ เพราะเป็นรหัสที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมาย เพียงแค่ผู้ส่งสารและผู้รับสารเข้าใจรูปแบบของรหัสมอร์ส แค่นั้นก็สามารถสื่อสารกันได้แล้ว ลองนึกดูสิว่าถ้าเรามีโอกาสได้ใช้รหัสมอร์สในชีวิตประจำวันจะสนุกแค่ไหน สำหรับวันที่ 11 นี้ เขาแนะนำให้เราลองเรียนรู้ชื่อตัวเองในแบบฉบับรหัสมอร์สดู ใครที่อยากลองก็สามารถเข้าไปที่ www.morsecode.scphillips.com/translator.html เพื่อแปลงชื่อของเราเป็นรหัสมอร์ส หรือใครอยากจะเขียนมากกว่าชื่อก็ได้นะ ลองเล่นเป็นประโยคแปลกๆ ส่งให้เพื่อนไปแปลงโค้ดดูก็ได้

13 มกราคม =  วันสติกเกอร์

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะชอบสะสมสติกเกอร์อยู่เรื่อยๆ บางคนนี่ซื้อมาเป็นกองแต่ไม่เคยได้ใช้เลย เข้าใจว่ามันน่ารักจนอยากจะเก็บสะสมไว้ เพราะฉะนั้นวันที่ 13 ก็เป็นวันที่เราจะมีโอกาสได้นำสติกเกอร์เหล่านั้นออกมาเชิดชู เฉลิมฉลองกันให้เต็มที่ เราอาจจะหยิบสติกเกอร์อันโปรดของเรามาแปะให้เพื่อนๆ ได้เอาไว้ดูต่างหน้าก็ได้นะ

14 มกราคม =  วันแต่งตัวสัตว์เลี้ยง

ใครที่มีสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่ที่บ้านล่ะก็ วันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะอวดโฉมความเริ่ดของน้องหมา น้องแมว ให้โลกได้รู้ ! ลองหาชุดที่เพียบพร้อมที่สุดให้สัตว์เลี้ยงของเราแล้วอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้นะ

16 มกราคม =  วันอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไร

ฟังดูแปลกใช่มั้ย ก็ต้องแน่อยู่แล้ว เพราะนี่เรารวบรวมเทศกาลเฉลิมฉลองแปลกๆ มาให้ได้ดูกัน สำหรับวันนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นการที่เราจะต้องผันตัวกลายเป็นคนขี้เกียจ ไม่ทำอะไร อยู่เฉยๆ หายใจทิ้งไปเรื่อยๆ งงมั้ย ? งงเหมือนกันจ้า แต่เขาว่ากันว่าถ้าวันนึงเราได้ลองนั่งเฉยๆ ให้เวลากับตัวเอง ไม่ต้องไปสนใจสิ่งรอบกายมาก ก็จะเป็นโอกาสดีที่เราจะได้รู้ถึงคุณค่าของชีวิตที่เป็นมาก็ได้นะ

17 มกราคม =  วันแห่งการเท New Year Resolution

ถามจริงๆ มีใครที่ทำตามเป้าหมาย New Year Resolution ได้บ้าง ? เห็นเขียนกันเป็นสิบๆ ข้อ แต่สุดท้ายทำได้ไม่ถึง 3 ข้อด้วยซ้ำ วันนี้แหละ จะไม่มีใครว่าหรือตัดสินหากเราเลือกที่จะ “เท” เป้าหมายเหล่านั้นซะ ลาก่อนเป้าหมายอันสวยงาม (ที่ทำไม่ได้ซะที)

21 มกราคม =  วันแห่งการกอด

ไม่มีอะไรดีกว่าการได้รับกอดที่แสนจะอบอุ่น สำหรับวันนี้เรามีโอกาสที่จะได้แจกจ่ายความอบอุ่นนั้นให้กับคนที่เรารัก เพียงแค่อ้าแขนสองข้างออกมาแล้วก็พุ่งตัวไปหาคนๆ นั้นเลย โอบกอดเขาให้แน่นที่สุดเท่าที่เคยทำมา แต่จะทำกับใครก็คิดดีๆ ก่อนนะ บางคนไม่ได้สนิทกับเราขนาดนั้น ก็อาจจะตกใจและหวาดกลัวได้…

23 มกราคม =  วันอวดลายมือ

ถึงเวลาของคนที่รักการเขียนจะได้แสดงฝีมือให้โลกรู้กันแล้ว สำหรับวันอวดลายมือก็ไม่มีอะไรมาก ตรงตัวไปเลย จุดประสงค์คือให้เราได้อวดลายมือตัวเองนั่นแหละ ลองเขียนลงกระดาษแล้วถ่ายรูปโชว์ให้โลกรู้ ! มาดูกันว่าลายมือเราจะเป็นสายผู้หญิงหวาน แบ๊วๆ หรือจะเป็นสายรีบสไตล์คุณหมอเวลาสั่งยากันแน่

26 มกราคม =  วันหาอะไรเล่นที่ออฟฟิศ

วันศุกร์สุดท้ายของเดือนก็ต้องฉลองกันหน่อย วันนี้จะเป็นวันที่คนในออฟฟิศจะช่วยกันหากิจกรรมหรือเกมส์ต่างๆ มาเล่นเพื่อสร้างความสนุกสนานระหว่างคนในที่ทำงานนั่นเอง ตัวอย่างเช่น จัดธีมแต่งตัว, เล่นบอร์ดเกมส์, เล่นบัดดี้ หรือจะเปิดเพลงร้องเล่นเต้นรำกันก็ได้นะ เอ้าาาา ปิดคอม ฉลองงงงง!

31 มกราคม =  วันทำทุกอย่างให้ตรงข้ามกับที่เคยทำ

วันที่โลกจะตาลปัตร กลับซ้ายเป็นขวา บนเป็นล่าง หน้าเป็นหลัง ดีเป็นร้าย กลางคืนเป็นกลางวัน ร้อนเป็นหนาว และอีกหลายๆ อย่าง หลักๆ แล้วจะสื่อว่าถึงเวลาที่เราจะลองทิ้งกฎเกณฑ์เก่าๆ หลักการเดิมๆ ทิ้งไป แล้วลองทำอะไรที่มันแหวกแนวจากที่เคยเป็นบ้าง เริ่มตั้งแต่การแต่งตัวตอนเช้าเลยก็ได้ ลองใส่เสื้อกลับด้านออกจากบ้าน ใส่รองเท้าสลับข้าง เจอหน้าเพื่อนก็ทักว่า ‘บ๊ายบาย…’ พูด ‘ครับ’ แทน ‘ค่ะ’ และอีกมากมายที่สามารถทำตรงข้ามได้ แค่นี้ก็ฟังดูน่าสนุกแล้วใช่มั้ยล่ะ (แต่ระวังนะ มันจะปวดหัวนิดๆ)

31 มกราคม =  วันให้รางวัลตัวเองด้วยการเสพศิลปะ

ง่ายๆ ตรงตัวเลย ให้วันนี้เป็นวันที่เราได้มีโอกาสไปซึมซับศิลปะดูบ้าง ให้เวลาตัวเองได้เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่อาจจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เราในการใช้ชีวิต เรียกได้ว่าให้รางวัลตัวเองได้พักจากเรื่องปวดหัว หนักสมอง มาเจอกับศิลปะในทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ดนตรี ภาพยนตร์หรือนิทรรศการต่างๆ ก็ได้เหมือนกันนะ ลองนึกดูว่าสิ่งไหนที่จะทำให้เรามีความสุขได้บ้าง (สรุป จบที่นอนดูซีรีส์…)

อ้างอิง :

www.daysoftheyear.com

Comments

comments

Author

You only live once