ต้อนรับเทศกาลโต๊ะจีนลิงที่จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ที่จังหวัดลพบุรี เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 10 เทศกาลที่แปลกที่สุดในโลก จุดประสงค์ของเทศกาลนี้ขึ้นก็เพื่อให้เหล่าฝูงลิงซึ่งอาศัยอยู่บริเวณ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด และตามตึกได้กินอิ่มอย่างเป็นทางการปีละครั้ง เพราะจากเดิมที่ถิ่นฐานนี้มีลิงอยู่เป็นจำนวนมากแต่สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นเพียงแค่ผู้อยู่อาศัยตั้งแต่มนุษย์เริ่มเข้ามาสร้างเมืองและที่พักมากขึ้น #ZipTalk คราวนี้จึงยกเกล็ดความรู้เกี่ยวกับตัวละครหลักของเทศกาลนี้มาบอกต่อทุกๆ คนกัน
จากที่เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กๆ ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความคล้ายกับมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพหรือทางชีวภาพก็คือ ลิงชิมแปนซี ซึ่งสัตว์ชนิดนี้มีความใกล้ชิดทางพันธุกรรมกับคนเรามากถึง 96% ตั้งแต่สมัยยุคดึกดำบรรพ์ มนุษย์เราได้มีวิวัฒนาการพัฒนาตัวเองที่ทำให้เกิดความแตกต่างแยกออกมาจากลิง ซึ่งวิวัฒนาการเหล่านี้ก็มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การอพยพถิ่นฐาน การปรับตัว การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและแหล่งอาหารต่างๆ
สิ่งที่เห็นได้ชัดว่ามนุษย์กับลิงมีลักษณะร่วมกันตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันก็คือ การอยู่ร่วมกันเป็นสังคมและการที่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม หรือเรียกง่ายๆ ว่า การเอาตัวรอดนั่นแหละ
แต่มาดูลักษณะนิสัยจิปาถะ รายละเอียดเล็กๆ กันดีกว่าว่ามีพฤติกรรมอะไรอีกบ้างที่ลิงปฏิบัติคล้ายกับมนุษย์เรา
1. ส่ายหัวเพื่อสื่อความหมายว่า “ไม่!”
( Nah to the ah to the, no, no, no )
สวนสัตว์ Leipzig ที่ประเทศเยอรมันนีได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของลิงชิมแปนซีตัวแม่ หลายครั้งที่มันพยายามส่ายหัวเพื่อที่จะยับยั้งไม่ให้ลูกปีนป่ายต้นไม้เล่น หรือนอกจากนั้นยังมีการกระทำที่ส่ายหัวใส่ลูกๆ เมื่อลูกไม่ยอมกินอาหารแต่กลับเขี่ยเล่นไปมา
#แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัดว่าการส่ายหัวของลิงชิมแปนซีเหล่านี้จะสื่อสารความหมายของคำว่า ไม่! กับลูกๆ ของมันหรือเปล่า จากการวิจัยของ Christel Schneider จาก Max Planck สถาบันการศึกษาวิวัฒนาการมนุษยวิทยา ได้กล่าวว่า การส่ายหัวของลิงนั้น น่าจะเป็นการตีความหมายของพฤติกรรมในเชิงคัดค้าน ต่อต้าน หรือปฎิเสธที่พัฒนามาจากมนุษย์เรามากกว่า
2. จดจำเงาสะท้อนของตัวเองได้
( Mirror Mirror on the wall who’s the fairest of them all )
หลายสิบปีที่มีการยืนยันในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า ลิงไม่ได้มีความสามารถในการจดจำตัวมันเองเหมือนมุนษย์ที่สามารถแยกแยะใบหน้าของตนเองกับผู้อื่นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทีมงานนักวิจัยจากสถาบัน Chinese Academy of Sciences ได้ทำการทดลองให้ลิงรู้จักการใช้กระจกเพื่อแยกแยะใบหน้าของตัวเองได้สำเร็จ ส่วนวิธีการทดลองก็เริ่มจากการที่ให้ลิงมองไปที่กระจกที่สะท้อนใบหน้าของตัวมันเอง แล้วฉายแสงเลเซอร์ไปที่หน้า แล้วถ้าลิงสามารถแตะไปที่จุดเลเซอร์บนหน้าได้สำเร็จ มันก็จะได้รางวัลเป็นอาหาร
#ใช้เวลาประมาณ 2-5 สัปดาห์ ลิงหลายๆ ตัวก็สามารถทำบททดสอบนี้ได้สำเร็จอย่างสม่ำเสมอ ผลการสำรวจจึงกล่าวว่า จริงๆ แล้ว ลิงก็มีระบบประสาทที่สามารถใช้ในการจดจำตัวเองได้เช่นกัน
3. ใช้มือในการแสดงอิริยาบท
( Put your HANDS UP! )
ท่าทางอิริยาบทของลิงที่เราคุ้นเคยมักจะเป็นการขออาหาร โดยการที่ยื่นแขนออกมาข้างหน้า หรือลิงบางตัวยังมีเล่ห์เหลี่ยมมากพอที่จะเพิ่มการทำสีหน้าน่าสงสารเข้าไปด้วย นักวานรวิทยา Frans de Waal จากมหาวิทยาลัย Emory ได้กล่าวว่า ลิงมีการแสดงท่าทางอิริยาบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การกอดหรือการแกล้งตีกันอย่างจริงจังเช่นเดียวกับคนเรานี่แหละ
#จากการศึกษาเมื่อปี 2007 เผยว่าจริงๆ แล้วลิงมีการแสดงออกผ่านมือและเท้ามากกว่าการแสดงออกผ่านทางสีหน้าอีกนะ
4. ขำลั่นเมื่อถูกจั๊กจี้
( Laughing Out Loud! )
พฤติกรรมนี้แทบจะเหมือนคนเราอย่างน่าตกใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกล่าวไว้ว่า สีหน้าท่าทางและเสียงที่เปล่งออกมาของลิงหลังจากที่โดนเทรนเนอร์จั๊กจี้เล่นแทบจะเป็นพื้นฐานทางกายภาพเดียวกับที่มนุษย์แสดงออกมาเลย Frans de Waal กล่าวเพิ่มเติมว่าการตอบสนองต่อการโดนจั๊กจี้นั้นแทบจะเป็นการตอบสนองที่ลิงแสดงออกมาคล้ายกับมนุษย์เราที่สุดแล้ว
#ผลการวิจัยเมื่อปี 2009 นักทดลองได้ลองอัดเสียงของลิงหลายๆ ชนิด (เช่น ชิมแปนซี, กอริลล่า, อุรังอุตังและคนทั่วไป) เมื่อถูกจั๊กจี้ เพื่อที่จะได้วิเคราะห์และเปรียบเทียบโทนเสียงเหล่านั้นได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ชัดเจนว่ายิ่งไพรเมท (Primates) แต่ละชนิดมียีนส์คล้ายกันมากเท่าไหร่ ความเหมือนของเสียงหัวเราะก็จะยิ่งคล้ายกันเท่านั้น
5. ยิ่งเครียดก็ยิ่งกิน !
( Gimme Fooooooood!! )
พบว่าเหล่าลิงที่อยู่ภายใต้ความเครียดมากๆ มักจะมีแนวโน้มของภาวะอยากกินนู่นกินนี่เพื่อบรรเทาความรู้สึก เพื่อที่จะเข้าใจถึงการศึกษาเรื่องนี้ เราต้องรู้ก่อนว่า ฝูงลิงจะอยู่อาศัยเป็นลำดับชนชั้น อย่างเช่น ลิงที่อยู่ในลำดับล่างๆ มักจะถูกปฏิบัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าเทียบกับจ่าฝูง ดังนั้นลิงที่อยู่ในชนชั้นล่างๆ ก็มักจะมีความเครียดสะสมไว้มากกว่า จากผลการทดลองที่ศึกษาถึงพฤติกรรมการกินโดยให้ลิงกินเม็ดยาที่มีรสชาติของกล้วย พบว่า ลิงที่อยู่ในลำดับต้นๆ จะไม่ค่อยมีพฤติกรรมการกินที่มากเกินมาตรฐาน ตรงข้ามกับกลุ่มลิงที่อยู่ในลำดับชนชั้นล่างๆ จะกินแทบตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
#ก็เหมือนกับมนุษย์เราที่อาหารประเภทน้ำตาลหวานๆ มักจะช่วยลดและบรรเทาความเครียดลง แถมยังช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นอีกต่างหาก
6. ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ความถูกต้องอยู่ที่นั่น
( We simply want Fairness )
เหมือนกันกับเราๆ นี่แหละ ลิงมีทั้งความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและความเห็นแก่ตัวรวมอยู่ด้วยกัน และเชื่อได้เลยว่า ถ้าลิงเริ่มมีเซ้นส์ถึงความไม่ยุติธรรมแล้วล่ะก็ มันจะแสดงออกมาให้เห็นแน่นอน จากการศึกษาเมื่อปี 2007 ได้ทำการทดลองโดยการฝึกให้ลิงไปเก็บก้อนหินเล็กๆ มาให้เพื่อแลกกับของรางวัล ซึ่งในที่นี้ก็คือแตงกวาชิ้นบางๆ เมื่อพวกมันเริ่มเข้าใจคอนเซ็ปต์แล้ว นักทดลองจึงลองให้รางวัลลิงตัวนึงเป็นองุ่นแทน ถ้าเทียบกันแล้ว แน่นอนว่าองุ่นมีรสชาติที่น่าพิสมัยกว่าแตงกวามาก ความไม่ยุติธรรมนี้ทำให้เหล่าลิงตัวอื่นๆ แสดงถึงอาการโมโหและฉุนเฉียว
#การยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมเป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์กับการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม เพราะว่าเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาความสัมพันธ์และการอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งจากการทดลองที่เราได้เห็นความแฟร์และเท่าเทียมก็คงเป็นเรื่องสำคัญของฝูงลิงด้วยเช่นกัน
7. ภาษาพลาซ่า
( Language is the light of mind )
เคยลองคิดกันไหมว่าถ้าลิงมี คำ หรือ ประโยค ที่เอาไว้สื่อสารระหว่างกันเหมือนมนุษย์เราล่ะ ? ถ้าเหล่าลิงมีภาษาเฉพาะในกลุ่มสังคมของพวกมันเองล่ะจะเกิดอะไรขึ้น ? จากการศึกษาเมื่อปี 2014 โดย Philippe Schlenker นักวิจัยจาก Jean-Nicod สถาบันการวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวไว้ว่า ลิงในวงศ์โลกเก่า (Cerocopithecidae) จะสร้างรูปแบบของคำจากการสร้างระดับเสียงที่เกิดในลำคอ
#พวกลิงจะแทนที่ “คำ” เหล่านี้ด้วยรากคำศัพท์ในการจะบ่งบอกและให้สัญญาณถึงอันตรายชนิดต่างๆ และยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยชิ้นหนึ่งยังค้นพบอีกว่าลิงในแต่ละภูมิภาคหรือพื้นที่จะมี “คำเฉพาะ” ที่แตกต่างกัน
8. การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
( Never Stop Learning )
ความสามารถในการสร้างและออกแบบเครื่องมือต่างๆ เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสปีชีส์อื่นๆ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้นำไปสู่นวัตกรรมทางการเกษตรและอุตสาหกรรมที่ทำให้คนเรามีอำนาจในการควบคุมสิ่งแวดล้อมต่างๆ แต่จริงๆ แล้ว มนุษย์ไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตเดียวที่สามารถสร้างเครื่องมือได้นะ เหล่าฝูงลิงได้เคยสร้างเครื่องมือและอุปกรณ์หลากหลายชนิดเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ลิงคาปูชินในแถบประเทศบราซิลได้สร้างเครื่องมือในการปอกเปลือกถั่วโดยการใช้หินทุบแรงๆ
#ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ของลิงแทบจะไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกับคนเรานี่แหละ