..ฉันชอบดำน้ำลงไปลึกๆ แล้วมองขึ้นไปบนผิวน้ำ สังเกตเงาสะท้อนของตนเอง ฉันมองเห็นความสวยงามของรูปทรงที่ถูกบิดเบือนให้ดูคล้ายของเหลว เป็นภาพลวงตาที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ฉันสัมผัสได้ เสมือนว่าได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อ “Liquify เมื่อฉันกลายเป็นของเหลว” บางครั้งฉันก็คิดว่า “นี่ตัวเราอยู่ในน้ำ หรือว่าน้ำอยู่ในตัวเรา”..

     ประโยคที่กล่าวไว้ข้างบนคือคำอธิบายชุดผลงาน Liquify ของ อร- นพร สืบสงวน บัณฑิตจบใหม่จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชาทัศนศิลป์ เอกจิตรกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งงานนิทรรศการเดี่ยวของเธอที่จัดขึ้นครั้งนี้ เราก็มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมและพูดคุยกับเธอถึงเรื่องราวของผลงานเซ็ตนี้ด้วย

ที่มาของ ‘Liquify’ เกิดขึ้นจากมุมมองจากสายตาของเธอล้วนๆ เกิดจากการมองเงาสะท้อนของตัวเธอเองเมื่ออยู่ในน้ำ มองไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าเงาสะท้อนนั้นถูกบิดเบือนไป เป็นคอนเซ็ปต์ที่เธอกล่าวเองว่า ‘มันก็จะ Abstract หน่อยๆ’

  • Liquify Exhibition‘ จัดขึ้นวันที่ 12 ต.ค. – 12 พ.ย. เวลา 11.00 – 20.00 ที่ The Jam Factory

เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานเซ็ตนี้ สิ่งแรกที่สะดุดตาเลยคือโทนสีฟ้าของภาพวาดที่เด่นชัด และลายเส้นของน้ำที่เสมือนว่าเคลื่อนไหวได้จริงๆ งานของเธอแค่มองแวบแรกก็รู้สึกว่าต้องเลือกที่จะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ต่อ

จุดเริ่มต้นของชีวิตศิลป์ศิลป์

ตอนแรกไม่ได้จะเข้าคณะนี้เลย จะเข้าอักษร แต่พอไปแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา ได้เรียนศิลปะเยอะๆ แล้วมันสนุกดี รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข แล้วตอนนั้นคณะศิลปกรรมเปิดรับสมัครพอดี ก็สมัครเลย คิดอะไรไม่รู้ตอนนั้น ติวอยู่ประมาณเดือนนึง แถมตอนนั้นยังดรออิ้ง (drawing) ไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แล้วมาเริ่มวาดภาพสีน้ำมันภาพแรกก็ตอนเรียนนั่นแหละ ช่วงปี 3 ก็คือช่วงต้นปี 2015 คือไม่ได้แบบทำเป็นมาก่อน ก็มาเริ่มทำตอนเรียนเลย

ทำไมถึงตัดสินใจวาดคอนเซ็ปต์นี้

แรงบันดาลใจในการทำงานชุด Liquify นี้ มาจากตัวเองล้วนๆ เลย คือมันเป็นมุมมองที่มองเห็นเวลาที่เราอยู่ในน้ำ แบบดำลงไปใต้น้ำ แล้วมองขึ้นมาบนผิวน้ำ เห็นเป็นเงาสะท้อนของตัวเองที่ถูกบิดเบือน คือมันค่อนข้างจะ Abstract หน่อยๆ เป็นภาพลวงตาที่เรามองเห็นในโลกแห่งความเป็นจริง เลยคิดว่ามันน่าสนใจ เพราะมันอาจจะเป็นมุมมองที่คนอื่นไม่ได้สังเกต

จุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของงานตัวเอง

คิดว่าเอกลักษณ์ในงานของเรา คือ ความละเอียดของงาน ถ้าสังเกตดีๆ กระเบื้องแต่ละช่อง นอกจากจะคนละสี แล้วมันยังมีเงาที่พาดผ่านด้วยนะ คือเราระบายสีทีละช่องจริงๆ เป็นคนชอบอะไรดีเทลๆ รายละเอียดเยอะๆ ที่ใช้เวลาทำนานๆ แล้วเวลาทำงาน เราจะอินกับงานมาก นั่งหน้างานเป็นวัน ไม่ทำอะไรเลย

เธอได้กล่าวถึงรูปที่ชอบที่สุดในเซ็ตผลงานนี้ ( Liquify V ) เป็นรูปที่ทุ่มเทและตั้งใจทำมากแถมใช้เวลานานที่สุดอีกด้วย จะสังเกตได้ว่ากระเบื้องที่วาดมีความละเอียดสูงกว่ารูปอื่นมาก พอเราได้มีโอกาสเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นได้ว่าเธอใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ

โปรเจ็กต์ในอนาคต

ผลงานในชุด Liquify จะมีอีก ยังไม่จบแค่ที่มีแสดงในงาน มีอีกหลายชิ้นที่คิดว่าจะทำต่อไป แต่ยังไม่ได้เริ่ม แล้วหลังจากนี้ อยากจะวาดภาพที่ใช้โทนสีอื่นในงานบ้าง เพราะ Liquify นี่ มีแต่สีฟ้า เริ่มจะเบื่อแล้ว ส่วนโปรเจ็กต์ต่อไปจะเป็นอะไร ก็คงต้องดูกันต่อไปค่ะ

ภายในงานมีขายโปสการ์ดผลงานชุด Liquify ด้วยนะ เผื่อใครที่อยากจะซื้อติดตัวกลับบ้านไป

อรได้ทิ้งท้ายไว้ว่า งานนิทรรศการครั้งนี้เหมาะกับทุกคนจริงๆ คือทุกคนสามารถดูได้และเข้าถึงตัวงานได้หมด เพราะตอนแรกที่เริ่มวาดเธออยากให้คนที่ได้ดูรู้สึกว่าอยู่ในน้ำกับเธอ เพราะฉะนั้นถ้าอยากรู้ว่าจะเหมือนอยู่ในน้ำจริงๆ หรือเปล่าเราก็อยากแนะนำให้ไปดูด้วยตาตัวเอง

ผลงานที่ผ่านมา

Comments

comments

Author

You only live once