การอ่านหนังสือบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ อ่านทีไรก็จะหลับทุกที แต่บางคนกลับมองว่าเป็นสิ่งที่ทำแล้วช่วยให้จิตใจสงบมากขึ้น ปล่อยวางจากเรื่องเครียดๆ แถมยังได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย ในเวลาที่ผ่านมา เราได้เห็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสนับสนุนและกระตุ้นให้ผู้คนอ่านหนังสือมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นกิจกรรมที่เราได้พักเวลาจากการเล่นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือแล้วหันมาเปิดหนังสืออ่านกัน ไม่ว่าจะเป็น The Book Fairies, HotDudeReading หรือ Bookgivingday ล้วนเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์มากๆ
อีกหนึ่งวิธีที่เรามองว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ใช่แค่ได้ประโยชน์กับตัวผู้อ่านแต่ได้ประโยชน์กับผู้อื่นด้วย นั่นคือการที่เรามีโอกาสได้แชร์สิ่งที่เราอ่านจากในหนังสือให้คนอื่นได้ฟัง ไม่ใช่แค่เล่าทื่อๆ หรืออ่านออกเสียงให้ฟังนะ แต่มันคือการที่เราได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด ทัศนคติและมุมมองให้กันและกันฟังเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้นๆ
________________________________________________________________________
” เวลาอ่านจบแล้วรู้สึกอัดอั้นตันใจ อยากเล่าให้ใครสักคนฟัง “
________________________________________________________________________
ร้านหนังสืออิสระ Fathom ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้ผู้คนได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดนอกเหนือจากการเดินเลือกซื้อหนังสือเฉยๆ ได้จัดกิจกรรมที่มีชื่อว่า ‘Read it forward‘ ขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้มีโอกาสบอกเล่าต่อถึงหนังสือเล่มโปรดของตัวเอง
กิจกรรมที่ได้อ่าน ได้คิด ได้แชร์ และได้ฟัง
ขอบคุณรูปภาพจาก FB: Fathom Bookspace
Read it forward มีจุดเด่นตรงที่ไม่ว่าจะต่างเพศ ต่างวัย แค่ไหน การที่ทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือการชอบอ่านหนังสือ ก็ทำให้กำแพงของคนแปลกหน้าทลายลงไปได้อย่างรวดเร็ว
“ชอบมาก และสนุกมาก เพราะได้เจอคนที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน และที่สำคัญคือ ต่างเพศต่างวัยอย่างไม่น่าเชื่อ บางคนนี่ 30 อัพแล้ว บางคนยังเรียนอยู่ บางคนเพิ่งเรียนจบก็มี ซึ่งเราว่าตรงนี้มันทำให้เห็นว่า ไม่ว่าใครก็อ่านหนังสือได้ ดูภายนอกคนๆ นี้ไม่น่าอ่านหนังสือแนวนี้ด้วยซ้ำ บางคนก็เอาหนังสือที่ไม่เข้าใจว่าต้องการสื่ออะไร มาเล่าในวงและถามว่า คิดว่าเรื่องนี้ต้องการบอกอะไรกับเรา” คุณณัฐชา อินทราเวช หนึ่งในผู้ที่เคยเข้าร่วม Read it forward ได้แชร์ถึงความประทับใจแรกให้เราได้ฟัง
ใครที่เหมาะกับกิจกรรมนี้ ?
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่อยากก้าวออกไปทำอะไรใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือเป็นทุนเดิม เพียงแค่มีหนังสือสักเล่มที่อยากเอาไปเล่าต่อก็พอแล้ว เพราะเพียงแค่หนังสือเล่มเดียวก็สามารถเป็นตัวกลางที่ทำให้คนรู้จักกันได้ และการที่เรามีโอกาสได้บอกเล่าถึงหนังสือเล่มหนึ่งอีกครั้งหลังจากอ่านจบ ก็เป็นเหมือนการทวนความจำและความเข้าใจของเราไปในตัว บอก 10 รอบก็เหมือนได้ใช้ความคิดอีก 10 รอบ ถือว่าเป็นการพัฒนาสมองด้วย ส่วนผู้ที่ได้มีโอกาสฟังเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาก็ถือว่าได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้หรือเนื้อหาใหม่ๆ อีกทั้งยังได้มีโอกาสมาพบปะผู้คนใหม่ๆ ด้วยนะ
กิจกรรม Read it forward จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในวัน เสาร์ที่ 23 กันยายน เวลา 13.30-16.00 น. ที่ร้าน Fathom Bookspace ซอย สาธร 3
**งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยนะ**
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.facebook.com/fathombookspace