Trending Now

วันนี้เราได้ฤกษ์งามยามดีไปแวะเวียนชมผลงาน solo exhibition งานแสดงศิลปะเดี่ยวครั้งแรกของ Kanith หรือ เล่-กนิษฐรินทร์ ไทยแหลมทอง       ที่มีชื่อว่า Made By Microwave งานนี้จัดอยู่ที่โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G ชั้น 36

 

ก่อนที่จะไปชมผลงานของเธอนั้น เรามารู้จักประวัติคร่าวๆของศิลปินสาวคนนี้กันก่อนดีกว่า เธอจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี สาขาเอกโมชั่นกราฟฟิค มหาวิทยาลัยรังสิตและจบการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาวิจิตรศิลป์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตอนนี้เธอทำงานเป็นนักวาดประกอบภาพอิสระให้กับหลายสำนักพิมพ์ชื่อดัง เช่น Salmon หรือ A day เป็นต้น 

Kanith

Made By Microwave เป็นอีกหนึ่งผลงานศิลปะที่เกิดขึ้นจากการนำประสบการณ์ชีวิตของตัวศิลปินนำมาต่อยอดความคิดไอเดียให้เกิดนิทรรศการครั้งนี้ขึ้นมา จากการที่เติบโตในครอบครัวจีน วิถีชีวิตแบบจีนๆ การทานอาหารโต๊ะจีน วันรวมญาติ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากและยังห่างไกลกับคำว่าสะดวกสบายและเรียบง่าย ตรงข้ามกับ วิถีชีวิตที่ใช้อยู่ทุกๆวันที่จะต้องทำงานทำการเพื่อจ่ายเงินแลกกับความสะดวก ความสำเร็จรูป เพื่อซื้อเวลาในสิ่งที่ต้องทำซ้ำๆกลับมา เลยกลายเป็นคอนเซปต์งานศิลปะครั้งนี้ ระหว่าง ความวุ่นวายซับซ้อนของโต๊ะจีน กับ ความสะดวกสบายสำเร็จรูปอย่างไมโครเวฟ

เอาล่ะ ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็ตามไปดูนิทรรศการแสดงศิลปะเดี่ยวของเธอกันเลยยยยย ! 🙂 

การเดินทางไปชมงานก็ไม่ได้ยากเลย เรานั่ง BTS มาลง สถานี ช่องนนทรี ทางออกที่ 3 มองจากบน BTS ก็จะเห็นตึกสูงๆของโรงแรมเด่นสะดุดตาอยู่แล้ว ทีนี้ก็มุ่งหน้าเดินไปทางถนนสีลม > ข้ามแยกตรงทางม้าลาย > เลี้ยวซ้ายเดินต่อมาเรื่อยๆ > Arrived!

สามารถมองเห็นตัวโรงแรมได้จากสถานี BTS ช่องนนทรี จากนั้นก็เดินตามทางมาเรื่อยๆเลย แดดร้อนแค่ไหนก็สู้ไม่ถอย

พอถึงโรงแรมก็ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 36 ได้เลย เลี้ยวออกมาปุ๊บก็จะเจอนิทรรศการที่ตามหา ง่ายมากๆ ไม่ซับซ้อน

ผลงานที่กนิษนำมาจัดโชว์ในครั้งนี้เรียกได้ว่าสะท้อนสังคม วิพากษ์วิจารณ์ความคิดของคนรอบๆตัวในมุมมองของผู้หญิงร่วมสมัยคนหนึ่ง รูปภาพที่จัดแสดงจะมีตัวละครผู้หญืงผมสั้นที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของ Kanith เอง

งานวาดออกแบบลงสีของ Kanith ก็ถือว่ามีเอกลักษณ์แล้วก็โดดเด่นในการเลือกใช้สีเด่นๆเป็นพื้นหลังไปเลยไม่ต้องมีลวดลายให้รกรุงรังเยอะมากไป เลยรู้สึกว่ามันดูง่าย ไม่ต้องมีรายละเอียดซับซ้อนเยอะไป

แต่ละรูปที่เธอได้วาดออกมาไม่ได้มีคำบรรยายอะไรเขียนไว้ว่ารูปๆนี้หมายความว่าอย่างไร เราต้องลองมองแล้วลองตีความออกมาตามความเข้าใจของเราเอง ซึ่งแต่ละคอนเซปต์ที่สร้างสรรออกมาก็ถือว่าตอบโจทย์สะท้อนความคิดของผู้คนในสังคมจริงๆ

พอเดินเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอห้องกว้างๆ ที่แต่ละมุมก็จะมีผลงานของกนิษติดไว้ มุมที่เราชอบอีกมุมนึงก็คงเป็นมุมติดกระจกมองออกไปเห็นวิวของตัวเมืองกรุงเทพได้อย่างชัดเจน ส่วนนี้จะเจอผลงานรูปวาดอีกหลายรูปเรียงเป็นทรงพีรามิดติดอยู่ข้างผนัง

ถัดมาข้างในของห้องแสดงผลงานก็จะเจอรูปที่อาจจะคุ้นเคยกันตามอินเทอร์เนต ซึ่งรูปนี้ก็เป็นรูปหนึ่งที่อยากจะเห็นกับตา

ปกติแล้วเวลาทานข้าวด้วยกันกับญาติผู้ใหญ่ พวกคนอาวุโส เพื่อนของพ่อของแม่ของป้าของลุง เราอาจจะเคยเจอกับหัวข้อพูดคุยเรื่องการเปรียบเทียบเรื่องลูกๆหลานๆว่าคนนี้เป็นอย่างไร ดีกว่าใคร เรียนที่ไหน ทำงานอะไร ตอนนั้นคงเป็นความรู้สึกที่อยากจะเอาจานข้าวขึ้นมาฟาดหน้าดีกว่า …

สำหรับรูปนี้ แสดงถึงวิถีชีวิตของครอบครัวเชื้อสายจีนมากๆ จากการนั่งทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาบนโต๊ะกลม ใครที่มีครอบครัวเชื้อสายจีนก็หน้าจะเข้าใจฟีลลิ่งนี้ แต่ถ้าใครไม่เคยก็คงอาจจะเห็นตามละครหรือภาพยนตร์ต่างๆ

ในช่วงแรกๆของวันเปิดตัวนิทรรศการจะมีการตกแต่งโต๊ะให้มีการวางกระถางธูปไหว้เจ้า โปสการ์ด แล้วก็พวกหมอนนิ่มๆ รูปเนื้อสัตว์และปลาที่ผลิตซ้ำออกมาเหมือนๆกัน ออกมาวางขายด้วย อดเลยยยยย

แต่ละรูปก็จะมีชื่อ รายละเอียด เทคนิค และก็ข้อมูลการติดต่อถ้าหากใครสนใจที่จะซื้อผลงานกลับบ้านไปด้วย ดูรายละเอียดตามอีเมลล์เลย

อยากจะบอกว่าการเดินทางมาชมผลงานครั้งนี้ถือว่าคุ้มมากๆได้เห็นผลงานแปลกใหม่น่าสนใจในมุมมองที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน รูปภาพต่างๆก็เปิดโอกาสให้เราได้ลองตีความในมุมความคิดของเราเอง คอนเซปต์ผลงานครั้งนี้ถือว่าสะท้อนวิถีชีวิตของคนไทยระหว่างความสะดวกสบายสำเร็จรูปที่ทุกคนต้องการแต่อีกมุมหนึ่งก็ยังมีความความปราณีตซับซ้อนกับหลายๆเรื่องตามวิถีความเป็นมาของชีวิตคนไทยเรา

เป็นไงกันบ้างงง ใครที่สนใจสามารถแวะเวียนไปชมผลงานของเธอได้ที่ โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G ชั้น 36 เวลา 10.00-17.00 น. เปิดให้เข้าชมทุกวันจนถึงวันที่ 21 พฤษภานี้ แถมงานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นๆ หวังว่าทุกคนจะเอ็นจอยน้าาา ยังไงก็อย่าลืมติดตามงานอีเวนท์น่าสนใจใหม่ๆกับเราได้ตลอดเวลาได้ที่ www.zipeventapp.com หรือ www.facebook.com/ZipEvent

Comments

comments

Author

You only live once